เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 22 เมษายน 2568 ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบกับ น.ส.ขวัญชนก (นามสมมติ) อายุ 34 ปี อาชีพฟรีแลนซ์ หลังปรากฏคลิปเหตุการณ์สุดสะเทือนใจถูกชายเพื่อนบ้านทำร้ายร่างกายอย่างทารุณบริเวณหน้าหอพักแห่งหนึ่ง ในซอยเลี่ยงเมืองนนทบุรี 10 ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2568 เวลาประมาณ 22.24 น. โดย น.ส.ขวัญชนก ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับตนและลูกๆ ทั้งสามคนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ข่าวที่น่าสนใจ

ด่วน! ทั่วไทยระวังพายุฤดูร้อน กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่ม ลมแรง 28 จังหวัดจ่อโดนเต็มๆ!

ชาวบ้านตกใจหมด ชายนอนอยู่ใต้ท้องรถ นึกว่าโดนรถทับ

น.ส.ขวัญชนก เล่าว่า ตนเองเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวเลี้ยงดูลูกสาว 3 คนตามลำพัง โดยพักอาศัยอยู่ที่หอพักดังกล่าว ซึ่งผู้ก่อเหตุไม่ใช่แฟนหรืออดีตสามี แต่เป็นเพียงผู้เช่าห้องพักในหอเดียวกันเท่านั้น ชายคนดังกล่าวสังเกตเห็นว่าตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวและไม่มีสามี จึงพยายามเข้ามาพูดคุยตีสนิท แต่ตนไม่ได้สนใจและไม่อยากสานสัมพันธ์ด้วย เนื่องจากต้องทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการดูแลลูกๆ ทั้งสาม

เหตุการณ์เริ่มบานปลายตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม 2567 เมื่อผู้ก่อเหตุได้บุกรุกเข้ามาในห้องพักของตนในขณะที่ลูกสาวคนเล็กวัย 9 ขวบกำลังนอนหลับอยู่ และบางครั้งยังเข้ามาลูบคลำกอดลูกสาวของตนอีกด้วย ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวคาดว่าเกิดขึ้นมาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม แต่ตนเพิ่งทราบเรื่องจากปากลูกสาว เนื่องจากลูกถูกผู้ก่อเหตุข่มขู่ไม่ให้นำเรื่องนี้ไปบอกใคร มิเช่นนั้นจะถูกฆ่า

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2567 และมีการตกลงค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นจำนวนเงิน 10,000 บาท แต่ต่อรองเหลือ 6,000 บาท โดยแบ่งชำระเป็น 2 งวด งวดละ 3,000 บาท พร้อมทั้งมีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับไม่ดีขึ้น หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ยังคงหาเรื่องพูดจาไม่ดีกับตนอยู่เสมอ บางครั้งขณะที่เขานั่งดื่มสุรากับเพื่อนๆ ก็จะส่งเสียงดังโวยวายและพูดจาหยาบคายให้ตนได้ยินอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ในขณะที่ตนพาลูกๆ กลับจากเล่นสงกรานต์ พบว่าผู้ก่อเหตุนั่งดื่มสุราอยู่กับกลุ่มเพื่อนบริเวณหน้าห้องเช่าของตน ขณะที่ตนกำลังเดินขึ้นห้องพัก ผู้ก่อเหตุได้ตะโกนด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายและปาเก้าอี้ใส่ตน

เท่านั้นยังไม่พอ ผู้ก่อเหตุยังตรงเข้ามากระชากลากตนไปยังบริเวณที่ทิ้งขยะหน้าหอพัก และลงมือทำร้ายร่างกายด้วยการตบตีอย่างรุนแรง เมื่อตนล้มลง เขาก็ขึ้นคร่อมตัวและพยายามจับศีรษะของตนโขกกับพื้นถนน ตนพยายามขัดขืนสุดกำลัง ใช้มือข่วนไปที่ใบหน้าของเขาเพื่อหวังให้ปล่อยตัว แต่ก็ไม่เป็นผล จนกระทั่งลูกๆ ของตนเห็นเหตุการณ์และเข้ามาช่วย โดยพยายามร้องขอให้หยุดทำร้ายแม่ แต่ผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ยอมหยุด

ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่และความห่วงใยลูก น.ส.ขวัญชนก ตัดสินใจว่าตนเองจะต้องไม่ยอมถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ จึงรวบรวมสติทั้งหมดกัดเข้าที่บริเวณหัวไหล่ของผู้ก่อเหตุอย่างแรง จนในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยตัว หลังจากนั้นตนรีบพาลูกๆ ออกไปขอความช่วยเหลือจากร้านค้าด้านนอกหอพัก และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาช่วยเหลือ พร้อมทั้งได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความดำเนินคดี

น.ส.ขวัญชนก กล่าวด้วยความหวาดกลัวว่า หลังจากกลับจากแจ้งความ ตนรู้สึกไม่ปลอดภัยอย่างยิ่งสำหรับตนเองและลูกๆ จึงตัดสินใจนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือจากสังคม และขณะนี้ได้ดำเนินการเรื่องย้ายออกจากหอพักดังกล่าวเพื่อไปพักอาศัยในที่ใหม่แล้ว เนื่องจากยังคงหวาดระแวงและไม่มั่นใจในความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ทุกวันนี้เวลาออกไปทำงานยังต้องคอยระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา

เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งกรณีที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการคุกคามและการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หญิงและกลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเข้ามาดูแลและให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับประชาชน