เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.วชิระ อัมฤทธิ์ สวญ.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.
ได้ทำการจับกุม
1. นายมิดฯ อายุ 28 ปี สัญชาติ เมียนมา
2. นายลาซินฯ 31 ปี สัญชาติ เมียนมา
ผู้ต้องหาที่ 3-32 บุคคลต่างด้าว สัญชาติ เมียนมา
ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”
ผู้ต้องหาที่ 3 – 30 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สถานที่จับกุม บริเวณ ทล.1 กม.355 (ขาเข้า) ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์
พฤติการณ์ สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบเส้นทาง ถนนพหลโยธิน ทล.1 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ พบรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ขับขี่มาด้วยความเร็วสูงและมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับติดตามอย่างกระชั้นชิด รถยนต์ทั้งสองได้ติดฟิล์มสีดำมืดทึบต้องสงสัย มีพิรุธ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟให้หยุดรถ จนกระทั่งมาถึงบริเวณ กม.355 ถนนพหลโยธิน ทล.1 (ขาเข้า) กม.355 ต.หนองกรด อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ รถยนต์คันดังกล่าวได้หยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบ พบนายมิดฯ สัญชาติเมียนมา แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ โดยมีบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 20 ราย โดยสารมากับรถยนต์ ส่วนรถยนต์อีกคันพบนายลาซินฯ สัญชาติเมียนมา แสดงตนเป็นผู้ขับขี่ และพบมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 10 คน โดยสารมากับรถยนต์คันดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญผู้ต้องหาพร้อมรถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าว มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียด
อีกครั้งที่ ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล. พบว่า ผู้ต้องหาที่ 3-30 เป็นคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ภ.จว.นครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาที่ 1-2 ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชาย (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) สัญชาติเมียนมา ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 30 คน ที่บริเวณพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางที่ จ.สมุทรสาคร โดยได้ค่าจ้าง 10,000 บาท ต่อครั้ง และรับว่าได้ขับขี่รถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และทราบดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าว ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ และสอบถามบุคคลต่างด้าวที่ถูกจับกุมให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมาในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเนื่องจากผู้ว่าจ้างดำเนินการให้