ผบ.ทบ. สั่งปรับการรักษาความปลอดภัยภาคใต้ เข้มมาตรการเชิงรุก จับผู้ก่อความไม่สงบทำร้ายเด็ก และหญิงชราตาบอดจนเสียชีวิตด้วยอาวุธปืนให้ได้เร็วที่สุด
เหตุการณ์ มีคนร้ายมใช้อาวุธปืนยิงประชาชนใน 2 เหตุการณ์ในจังหวัดนราธิวาส เหตุการณ์แรกทำให้เด็กวัยเพียง 9 ขวบเสียชีวิต ที่อำเภอตากใบ รวมไปถึงที่อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ทำให้หญิงสูงอายุและตาบอดนั้น
พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก สั่ง กอ.รมน.ภาค 4 เร่งปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดจุดตรวจ และการลาดตระเวนเชิงรุก ควบคู่การข่าว จับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่เกิดเหตุทั้งสองจุดทันที พร้อมประกาศประณามการกระทำอันโหดเหี้ยม พร้อมติดตามจับกุมผู้กระทำผิด ระงับการลาของเจ้าหน้าที่ และให้ทำงานร่วมกับผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา เสริมกำลังในจุดที่กำลังไม่เพียงพอ
นายแวร์ดือราแม มะมิงจิ ผู้แทนคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี ให้ทุกฝ่ายใช้แนวทางสันติ อย่าใช้ความรุนแรงต่อกัน ให้อิสลามมิกชน ยึดคำแนะนำ่ของจุฬาราชมนตรี ชายแดนภาคใต้ ไม่ใช่ดินแดนสงคราม อย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบบุคคล หรือ วัตถุต้องสงสัย โทรศัพท์สายตรงถึงแม่ทัพภาคที่ 4 สายด่วน พร้อมเตือนหากมีคนช่วยผู้ก่อความไม่สงบ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ
พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกล่าวว่า
“ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันต่อสู้ โดยอาศัยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่มีอยู่ในระบบ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และกลไกกระบวนการยุติธรรม มาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน”
พร้อมทั้งสั่งการให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ดำเนินการอย่างเร่งด่วน ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งในเชิงรับและเชิงรุก ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเน้นการสกัดกั้นการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดของจุดตรวจ และการลาดตระเวนเชิงรุก ควบคู่กับการใช้มาตรการด้านการข่าวในการติดตาม สืบสวน และจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ กองทัพบก ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและประชาชนผู้บริสุทธิ์ และหากพบเห็นบุคคลต้องสงสัย หรือพฤติกรรมผิดปกติในพื้นที่ สามารถแจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โทร. 1341 หรือแจ้งต่อหน่วยเฉพาะกิจของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ใกล้เคียง