วันที่ 13 พฤษภาคม 2568 สถานีตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากนายสัญญา แย้มบุปผา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) เขต 5 จังหวัดอุดรธานี ว่ามีหญิงสูงอายุป่วยหลายโรค ถูกญาตินำมาฝากไว้ที่สมาคมคนพิการบ้านหนองบุ ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี แต่ทางสมาคมไม่สามารถดูแลได้ และพยายามติดต่อญาติให้มารับตัวกลับแต่ไม่สามารถติดต่อได้
หญิงรายดังกล่าว อายุ 58 ปี เป็นชาวบ้านนาข่า อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ตรวจสอบพบว่านั่งอยู่บนรถตู้ พร้อมยารักษาโรคจำนวนมาก โดยสามารถพูดคุยและตอบโต้ได้ แต่ใช้เวลาคิดนานและมีอาการร้องไห้เป็นระยะ เธอเล่าว่ามีลูก 4 คน ซึ่งต่างคนต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวหมดแล้ว และตนป่วยเป็นเบาหวาน ความดัน ไทรอยด์ จนต้องตัดหัวแม่เท้าข้างขวาทิ้ง
เธอเผยว่า ลูกสาวเคยนำเธอไปฝากไว้ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยแห่งหนึ่งในเขตเมืองอุดรธานีมานานกว่า 2-3 ปี โดยไม่เคยมาเยี่ยม และไม่ได้จ่ายค่าใช้จ่ายในการดูแลเลย เมื่อเจ้าหน้าที่ศูนย์พยายามติดต่อ ลูกสาวกลับตัดสายทิ้ง เจ้าหน้าที่จึงพยายามนำตัวมาส่งบ้านญาติ แต่ไม่มีใครยินดีรับดูแล
นายสัญญา แย้มบุปผา ระบุว่าได้รับแจ้งจาก อสม.ในพื้นที่ว่ามีหญิงพิการพลัดหลง ไม่มีใครดูแล จึงออกตรวจสอบ พบหญิงรายนี้ต้องการกลับบ้านที่บ้านนาข่า แต่เมื่อเดินทางไปถึงพบว่าเคยมีบ้านอยู่จริง แต่ขายไปหมดแล้ว ไม่มีลูกหรือญาติรับดูแล หญิงคนดังกล่าวถึงกับขอไปอาศัยนอนที่วัด แต่ตนเห็นว่าไม่ปลอดภัย จึงพากลับมาที่บ้านตนเอง และพยายามติดต่อเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) จังหวัดอุดรธานี แต่รอนานกว่า 2-3 ชั่วโมงก็ยังไม่มีใครมารับ จึงโทรแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ
ทางด้าน ร.ต.อ.ไพบูลย์ ชัยทิพย์ รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี ได้ติดต่อศูนย์ดูแลผู้ป่วย ทราบว่า ลูกสาวของหญิงรายนี้ติดค้างค่าดูแลนานถึง 5 เดือน เป็นเงินกว่า 100,000 บาท ทางศูนย์จึงนำตัวมาส่งญาติ แต่กลับไม่มีใครรับไว้ ขณะเดียวกันเมื่อติดต่อหาลูกสาว ก็ไม่รับสาย
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวหญิงรายนี้ไปพักชั่วคราวที่ศูนย์ 191 สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อรอประสานหน่วยงาน พมจ.มารับตัวดูแลต่อ ซึ่งระหว่างรอ หญิงรายนี้ได้หยิบยาจำนวนมากมากิน พร้อมบ่นอยากติดต่อหาลูกชายที่อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ยังติดต่อไม่ได้
ขณะเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ซึ่งดูแลงานด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่าได้รับรายงานเรื่องนี้แล้ว เบื้องต้นพบว่าหญิงรายนี้มีปัญหาทั้งทางร่างกายและมีอาการทางจิตเวช จึงได้เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อจัดหาสถานที่พักชั่วคราว โดยจะส่งตัวเข้ารับการตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ก่อนจะพิจารณาทางเลือกในการดูแลต่อไป
กรณีนี้สะท้อนปัญหาสังคมด้านการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งต้องการความร่วมมือทั้งจากครอบครัวและภาครัฐในการดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้ป่วย.
ข่าวที่น่าสนใจ
ประชาชนยังไว้วางใจ “ลูกพีช หลีนวรัตน์” ชนะเลือกตั้ง ส.ท.ธัญบุรี คว้าชัยชนะยกทีม