เมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน พลตำรวจตรี คมสิทธ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 พร้อมด้วย พันตำรวจเอก ธีระชัย เด็ดขาด รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9, พันตำรวจเอก กฤติเดช จันทร์เพชร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน และพันตำรวจโท ขจร ธูปประกายศรี สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน
ข่าวที่น่าสนใจ
“ฟู่ไจ๋” คอร์กี้ตำรวจแสบ! ฉกไส้กรอกเด็ก แถมส่ายก้นหนีได้หน้าตาเฉย!!
หนุ่มวัย 23! อ้างพิษพนันบอล คว้าอาวุธปลอมจี้ แม่ค้าก๋วยเตี๋ยว 700 ซิ่งหนีดับกลางทาง พลเมืองดีล็อกตัวได้
ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์สายไฟฟ้า จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย นายชัยชนะ หรือโต้ง อายุ 38 ปี, นายกิตติศักดิ์ หรือแบงค์ อายุ 27 ปี และนายจักรกฤษ หรือบอล อายุ 23 ปี
พร้อมของกลางที่ยึดได้ ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นลีด 125 สีแดง หมายเลขทะเบียน 8 ขญ 9873 กรุงเทพมหานคร, ปลอกสายไฟฟ้าที่ถูกตัดแล้ว จำนวน 35 เส้น, คีมตัดสายไฟ จำนวน 1 อัน และยาไอซ์ น้ำหนัก 1.1 กรัม ซึ่งตรวจพบในครอบครองของนายชัยชนะ โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ที่บริเวณเคหะบางบอน แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
พลตำรวจตรี คมสิทธิ์ รังไสย์ เปิดเผยถึงที่มาของการจับกุมว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายวิเชียร จีนโก๊ว อายุ 39 ปี ผู้ได้รับมอบอำนาจจาก นายพิพัฒน์ ชลอำไพ รองผู้ว่าการบริการระบบจำหน่าย การไฟฟ้านครหลวง
ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า มีคนร้ายลอบตัดสายไฟฟ้าบริเวณหน้าร้านบุฟเฟ่ต์ทะเลเผา ก่อนถึงโลตัส ซอยเอกชัย 87/1 แขวงคลองบางบอน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร โดยทรัพย์สินที่สูญหายเป็นสายไฟฟ้าแรงขนาดกลาง ความยาวประมาณ 60 เมตร มูลค่าความเสียหายกว่า 5 แสนบาท ซึ่งได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ภายหลังการรับแจ้งความ พันตำรวจเอก กฤติเดช จันทร์เพชร ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียน ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและหาเบาะแส กระทั่งพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีพฤติการณ์ตระเวนลักทรัพย์สายไฟฟ้าในหลายพื้นที่ และยังเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยมักจะพักอาศัยอยู่ในย่านเคหะบางบอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เฝ้าติดตามและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ส่วนผู้ร่วมก่อเหตุอีก 2 รายได้หลบหนีไปได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์สายไฟฟ้าจริง ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลบางขุนเทียนและสถานีตำรวจนครบาลบางบอน
โดยยังมีผู้ร่วมก่อเหตุที่อยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 2 ราย คือ นายกฤษดา อายุ 31 ปี และนายอภิสิทธิ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหายังให้การซัดทอดว่า ได้ร่วมกันลงมือก่อเหตุมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม และประมาณวันที่ 10-11 พฤษภาคม ในช่วงกลางดึกเวลาประมาณตีสอง ที่บริเวณหน้าร้านบุฟเฟ่ต์ทะเลเผา ซอยเอกชัย 87/1 ได้สายไฟฟ้าแรงกลางไปรวมความยาว 12 เมตร
นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังให้การเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม เวลาประมาณตีสอง ได้ร่วมกันไปก่อเหตุลักทรัพย์สายไฟฟ้าบริเวณฝั่งตรงข้ามร้านสะดวกซื้อซีเจ ปากซอยบางบอน 4 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพมหานคร
แต่ไม่สามารถนำสายไฟไปได้ เนื่องจาก นายกิตติศักดิ์ และนายกฤษดา ถูกกระแสไฟฟ้าจากสายไฟที่ถูกตัดชอร์ต จนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณมือทั้งสองข้าง ทำให้สายไฟฟ้าจำนวน 3 เส้นได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้งานได้ ประเมินมูลค่าความเสียหายประมาณ 1.5 ล้านบาท และผู้ต้องหายังรับสารภาพว่าได้เสพยาไอซ์มาก่อนก่อเหตุ
พลตำรวจตรี คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ได้กล่าวตักเตือนผู้ต้องหาให้กลับตัวกลับใจ และแนะนำให้เข้ารับการฝึกอาชีพในเรือนจำ เพื่อที่จะสามารถออกมาประกอบอาชีพสุจริตได้ พร้อมกันนี้ ยังได้ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ช่วยเป็นหูเป็นตา
สังเกตและแจ้งเบาะแส หากพบบุคคลต้องสงสัยอยู่ในสถานที่ที่ไม่ควรอยู่ เช่น บริเวณเสาไฟฟ้า ซึ่งปกติจะมีเพียงเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าเท่านั้น หากพบเห็นบุคคลที่มีท่าทางหรือการแต่งกายที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าอยู่ในบริเวณดังกล่าว ให้รีบแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือโทรสายด่วน 191 และสถานีตำรวจในพื้นที่ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ที่มีไว้ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อให้สะดวกแก่การกระทำผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไป”
และแจ้งข้อหานายชัยชนะเพิ่มเติมในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 ราย จะถูกดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และจะเร่งติดตามจับกุมมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป