วันที่ 13 มิถุนายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาออกมาตรการตอบโต้รัฐบาลไทย รวมถึงการสั่งปิดด่านชายแดนจันทบุรี โดยยืนยันว่า รัฐบาลไทยไม่ได้เดือดร้อนจากท่าทีดังกล่าว
“เรื่องเสียอธิปไตยไม่อยู่ในหัวผมเลย” นายอนุทินกล่าว พร้อมโต้กลับว่า หากกัมพูชาไม่ใช้ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต หรือสินค้าไทยก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่การเลือกไม่ใช้สินค้าจากไทยอาจทำให้ประชาชนของเขาต้องซื้อของในราคาที่แพงขึ้น เพราะสินค้าหลายอย่างที่ใช้ในกัมพูชานั้นเป็นสินค้าจากไทยทั้งสิ้น
นายอนุทินยังย้ำว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม เพราะผู้ประกอบการไทยไม่พึ่งพาตลาดเดียว และขอให้คนไทยหันมาอุดหนุนสินค้าไทยให้มากขึ้น ลดการบริโภคสินค้าจากต่างประเทศแทน
สำหรับมาตรการปิดด่านและเรียกพลเมืองกัมพูชากลับประเทศนั้น รัฐมนตรีมหาดไทยระบุว่า รัฐบาลไทยพร้อมอำนวยความสะดวกเต็มที่ให้แก่แรงงานกัมพูชาที่ทำมาหากินอย่างสุจริต โดยย้ำว่าคนเหล่านี้คือ “เพื่อนบ้าน” ที่อยู่ร่วมกันด้วยมิตรไมตรี ไม่ใช่เป้าหมายของความขัดแย้ง
ในประเด็นที่กัมพูชาอาจไม่ซื้อไฟฟ้าจากไทย นายอนุทินกล่าวว่า “ถ้าไม่ซื้อก็ดี จะได้ไม่ต้องสั่งตัดไฟ” และหากมีคำสั่งจากฝ่ายความมั่นคง กระทรวงมหาดไทยพร้อมดำเนินการทันที โดยชี้แจงเพิ่มเติมว่าการซื้อขายไฟฟ้าระหว่างไทยกับกัมพูชาเป็นข้อตกลงรัฐต่อรัฐ ต่างจากกรณีของเมียนมาที่เกี่ยวข้องกับสัญญาภาคเอกชน
เมื่อถูกถามถึงคำกล่าวบนเวทีว่า “พร้อมรบ” นายอนุทินตอบว่า พร้อมในทุกด้าน แต่ย้ำว่ารัฐบาลต้องการหลีกเลี่ยงความขัดแย้งและความเสียหาย พร้อมให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า รัฐไทยควบคุมสถานการณ์ได้ และหากมีคนไทยจะเดินทางกลับจากฝั่งกัมพูชา ผู้ว่าราชการสามารถสั่งเปิดด่านได้ทันที ไม่มีการปิดกั้น
ข่าวที่น่าสนใจ
นายกฯ “อุ๊งอิ๊งค์” โพสต์ข้อความถึงนายกฯ อินเดีย แสดงความเสียใจสุดซึ้ง เหตุการณ์เครื่องบินตกคร่าชีวิตสุดสะเทือนใจ!
ฮุน เซน เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาร่วมกันบริจาคเงินให้กับกองทุนเพื่อสนับสนุนกองทัพ