ทำเนียบรัฐบาล, 8 ส.ค. 2568 — พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ หรือ “บิ๊กเล็ก” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สร้างความฮือฮาด้วยการเปิดตัว “บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” อดีตนางสาวไทยชื่อดัง ให้เข้ามาทำหน้าที่เป็น โฆษกจิตอาสาของศูนย์บัญชาการสถานการณ์ด้านความมั่นคงภายในประเทศ (ศบ.ทก.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวแทนในการตอบโต้ พล.ท.หญิงมาลี คู่ขัดแย้งทางออนไลน์ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในขณะนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
หนุ่ม กรรชัย พูดตรงๆห่วงมดดำ ลั่นไม่อยากให้เกิดกับน้องผม
“หมอบี” บุกกองปราบ! แจงเงินบริจาค 200 ล้าน! “บิ๊กเต่า” ลั่น! เคลียร์ทุกปม! งานนี้มีสั่นสะเทือน!
พล.อ.ณัฐพลกล่าวด้วยความมั่นใจว่า “วันนี้ขอเปิดตัวโฆษกจิตอาสาของ ศบ.ทก. เพิ่มเติม บอกตรงๆ ว่า เพื่อปะทะกับพล.อ.หญิงมาลี คืออย่างน้อยตอนนี้ความได้เปรียบที่ตนมั่นใจคือ สวยกว่าแน่นอน” พร้อมเสริมอย่างติดตลกว่า “โฆษก ศบ.ทก. เป็นนางสาวไทย แต่โฆษกกลาโหมของกัมพูชานั้นไม่ใช่นางสาวกัมพูชาแน่นอน”
ด้านการทำงาน พล.อ.ณัฐพลได้มอบหมายภารกิจให้คุณบุ๋ม ปนัดดา เน้นการตอบโต้ทางช่องทางออนไลน์ โดยทางทีมงาน ศบ.ทก. จะเป็นผู้สนับสนุนข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนให้กับการแถลงข่าวทั้งหมด ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่สื่อสารออกไปจะเป็นข้อมูลจริงและเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน
“บุ๋ม ปนัดดา” ไม่หวั่นเฟกนิวส์ พร้อมนำความเดือดร้อนของประชาชนเป็นประเด็นหลัก
ในการให้สัมภาษณ์หลังรับตำแหน่ง “บุ๋ม ปนัดดา” กล่าวว่ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่สำคัญนี้ โดยให้เหตุผลในการตัดสินใจว่า “ตกลงมาทำหน้าที่เพราะเราอยู่ในพื้นที่มานาน เห็นความเดือดร้อนของประชาชนและความอดทนของทหาร อยากเป็นสื่อกลางที่ชัดเจน คุยกับสื่อและฝ่ายทหารตรงกับความเป็นจริง บอกกับต่างประเทศด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นกับไทย”
เมื่อถูกถามถึงความกังวลเรื่องการปะทะกับเฟกนิวส์จากฝ่ายตรงข้าม คุณบุ๋มยืนยันว่า “ไม่กลัวเรื่องเฟกนิวส์ เพราะเราเป็นคนชัดเจนและคนตรงๆ เชื่อว่าสื่อไทยรู้จักดิฉันเป็นอย่างดี” พร้อมประกาศจุดยืนว่าจะใช้เพจทางการในการเผยแพร่ข้อมูลราชการและข้อมูลที่ได้ลงพื้นที่จริงเท่านั้น ย้ำว่า “ข่าวที่เสนอออกมาจะไม่มีเฟกนิวส์ แต่จะเป็นของจริงเท่านั้นที่จะได้ลงในเพจ”
สำหรับประเด็นแรกที่คุณบุ๋มจะนำมาใช้ในการตอบโต้คือ “ความเดือดร้อนของประชาชนมีมากน้อยแค่ไหน ประชาชนไม่ได้ทำงาน เด็กไม่ได้เรียนหนังสือ ทุกคนกลัวอนาธิปไตย” โดยจะเน้นการสื่อสารให้เห็นว่าทุกภาคส่วนต้องทำงานร่วมกัน เพื่อไม่ให้มีประชาชนต้องได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้อีกต่อไป