ช่วงค่ำวันที่ 17 ส.ค. 2568 สตีฟ วิตคอฟฟ์ (Steve Witkoff) ผู้แทนพิเศษทำเนียบขาว เปิดเผยความคืบหน้าหลังการประชุมสุดยอดผู้นำระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ที่เมืองแองเคอเรจ รัฐอะแลสกา เมื่อ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น)
วิตคอฟฟ์ระบุว่า ปูตินยอมรับในหลักการให้สหรัฐฯ และชาติยุโรปจัดทำ “หลักประกันความมั่นคง” ให้ยูเครน ในลักษณะเดียวกับ มาตรา 5 ของสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่รัสเซียแสดงท่าทีเชิงบวกต่อแนวทางดังกล่าว โดยมาตรา 5 กำหนดว่า หากประเทศสมาชิกใดถูกโจมตี จะถือเป็นการโจมตีต่อชาติสมาชิกทั้งหมด และพันธมิตรต้องให้ความช่วยเหลือตามที่เห็นสมควร
อย่างไรก็ดี การเจรจายังเผชิญอุปสรรค โดยเฉพาะ เงื่อนไขจากรัสเซียให้ยูเครนยุติแผนเข้าร่วมนาโต และยอมรับการผนวกไครเมียรวมถึงพื้นที่ตะวันออกบางส่วน ซึ่งขัดกับจุดยืนของ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่ยืนยันชัดว่า จะไม่ยอมสูญเสียอธิปไตยเหนือดินแดนใด ๆ ของประเทศ
ด้าน อูร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แสดงความยินดีกับพัฒนาการดังกล่าว พร้อมย้ำว่าสหภาพยุโรปพร้อมมีบทบาทสนับสนุนหลักประกันความมั่นคงยูเครน ขณะที่ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนว่า หากความพยายามของทรัมป์ล้มเหลว รัสเซียอาจเผชิญผลลัพธ์เพิ่มเติม แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตร เพราะเกรงทำให้การเจรจาติดขัด พร้อมยอมรับว่า ข้อตกลงสันติภาพยังอยู่ห่างไกล แม้จะเริ่มเห็นความคืบหน้าในบางประเด็น
รูบิโอทิ้งท้ายว่า นอกเหนือจากการหาข้อยุติเกี่ยวกับเขตแดนแล้ว โลกยังต้องเผชิญโจทย์ใหญ่เรื่อง การฟื้นฟูประเทศยูเครนที่เสียหายหนักจากสงครามซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีครึ่ง
ข่าวอื่นๆที่น่าสนใจ
ชาวบ้านชายแดนไม่วางใจ พร้อมอพยพ บางส่วนก็เริ่มอพยพออกไปแล้ว
เกิดเหตุเครื่องบินตก บนถนนบริเวณใกล้สนามบินเล็ก ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต