ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีโรงงานผลิตทองรูปพรรณแห่งหนึ่งร้องทุกข์ หลังตรวจพบความเสียหายมหาศาลจากการถูกลูกจ้างร่วมมือกับห้างทองลักทรัพย์ทองรูปพรรณออกจากโรงงานกว่า 103 กิโลกรัม หรือคิดเป็นน้ำหนักประมาณ 6,763 บาททองคำ มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท (ตามราคาทองคำปัจจุบัน)
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ หญิง อายุ 41 ปี ตัวแทนโรงงาน พร้อมด้วย ทนายกุ้ง ซึ่งเปิดเผยรายละเอียดว่า โรงงานของตนทำหน้าที่ผลิตทองรูปพรรณเพื่อจำหน่ายให้ห้างทองและร้านทองทั่วประเทศ กระทั่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบย้อนหลังพบความผิดปกติ จนนำไปสู่การเปิดโปงขบวนการลักทรัพย์ภายใน
จากการตรวจสอบพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ กลางเดือนธันวาคม 2567 ถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2568 โดยมีลูกจ้าง 3 คน ซึ่งทำงานในตำแหน่งพนักงานขาย มีหน้าที่รับออเดอร์และเบิกทองจากโรงงาน เพื่อส่งมอบให้ร้านค้าทองคำ แต่กลับ ร่วมกันวางแผนทำบิลสั่งซื้อปลอม โดยแอบอ้างชื่อร้านทอง 25 แห่ง ที่ไม่เคยมีการสั่งซื้อจริง เพื่อเบิกทองออกจากโรงงาน
โรงงานมีระบบเครดิตให้ร้านค้าชำระภายใน 14 วัน ซึ่งในช่วงแรกมีบางร้านที่ทยอยชำระคืนบางส่วน ทำให้ไม่เป็นที่สงสัย จนกระทั่งเครดิตเต็มทั้ง 25 ร้าน โรงงานจึงส่งหนังสือทวงถามไปยังร้านทอง ก่อนพบความจริงว่า ไม่มีร้านใดเคยสั่งทองจากโรงงานเลยแม้แต่รายเดียว
หลังเรียกลูกจ้างทั้ง 3 คนมาสอบถาม ทั้งหมดรับสารภาพว่าได้ร่วมมือกับ ห้างทองแห่งหนึ่ง ซึ่งต้องการสั่งทองจากโรงงานแต่เครดิตเต็ม จึงใช้วิธีปลอมบิลและหัวบิลของร้านทอง 25 ร้านขึ้นมา เพื่อเบิกทองจากโรงงานไปให้ห้างดังกล่าว โดยกระทำลักษณะนี้ต่อเนื่องถึง 30 ครั้ง รวมทองที่หายไปทั้งหมด 103 กิโลกรัม
ภายหลังโรงงานได้ติดต่อไปยังห้างทองที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็ยอมรับว่าได้รับทองไปจริงตามจำนวนดังกล่าว และได้ลงนาม เซ็นรับสภาพหนี้ไว้เรียบร้อย
ตัวแทนโรงงานเผยว่า ลูกจ้างอ้างว่าทำไปเพราะต้องการช่วยเพิ่มยอดขายให้โรงงาน แต่ทางโรงงานไม่เชื่อ เนื่องจากพฤติกรรมทั้งหมดเป็นการวางแผนล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ โดยลูกจ้าง 2 คนทำงานมาตั้งแต่ปี 2566 ส่วนอีกหนึ่งคนเพิ่งเข้ามาทำงานในปี 2567 ซึ่งไม่เคยมีพฤติกรรมทุจริตมาก่อนจนถึงช่วงปลายปีที่ผ่านมา
ด้าน ทนายกุ้ง เปิดเผยว่า ผู้เสียหายได้แจ้งความต่อสถานีตำรวจแห่งหนึ่งแล้ว ให้ดำเนินคดีกับลูกจ้างทั้ง 3 คน รวมถึงห้างทองและกรรมการของห้างทอง รวม 5 ราย ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์นายจ้าง” และ “รับของโจร” แต่หลังจากผ่านมา กว่า 3 เดือน คดีกลับยังไม่มีความคืบหน้า จึงได้ตัดสินใจ ยื่นฟ้องคดีอาญาด้วยตนเอง เพื่อให้ความยุติธรรมเกิดขึ้นโดยเร็ว
ทั้งนี้ โรงงานยืนยันว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ซ้ำอีกในวงการค้าทองคำ.
ข่าวที่น่าสนใจ
“ปู ไปรยา” งามหยด! สวมบท “นางนพมาศ” เริ่ดหรูอลังการ สะเทือน! ลอสแอนเจลิส