เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ซานาเอะ ทาคาอิชิ นักการเมืองสายขวาจัดจากพรรค LDP ได้รับเลือกจากรัฐสภาให้ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ด้วยคะแนนเสียง 237 โหวต สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นคนแรกที่ไม่ใช่ผู้ชาย ในประเทศที่ระบบการเมือง และสังคมมีลักษณะแบบชายเป็นใหญ่

การเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งใหม่นี้เกิดขึนหลังจาก ชิเงรุ อิชิบะ อดีตนายกรัฐมนตรีประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังจากดำรงตำแหน่งได้เพียงหนึ่งปีอันมีสาเหตุมาจากความขัดแย้งภายในตัวพรรค ส่งผลให้เธอกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่ได้เป็นหัวหน้าพรรค LDP และได้ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น โดยเธอมักถูกสื่อขนานนามว่าเป็น “สตรีเหล็กแห่งญี่ปุ่น” จากการที่เธอยกย่อง มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ และ แองเกลลา แมร์เคิล เป็นต้นแบบ “เป้าหมายของฉันคือการเป็นสตรีเหล็ก” ซานาเอะพูดระหว่างการหาเสียง

แม้ว่าเธอจะเป็นนายกหญิงคนแรก แต่ซานาเอะถูกวิจารณ์ว่าเธอเป็นนักการเมืองฝ่ายอนุรักษ์นิยมสุดโต่ง และชาตินิยมขวาจัด ซานาเอะมีแนวคิดต่อต้านการรักร่วมเพศ และต่อต้านกฏหมายให้ผู้หญิงยังคงใช้นามสกุลเดิมหลังแต่งงานได้ นอกจากนี้แล้วยังสนับสนุนให้คงการสืบสันตติวงศ์ญี่ปุ่นไว้สำหรับราชวงศ์ฝ่ายชายเท่านั้น แม้ว่าราชบัลลังก์ญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาภาวะขาดแคลนรัชทายาทอยู่ก็ตาม

รูปภาพจาก – Reuters

นโยบาการต่างประเทศของซานาเอะนั้นมีท่าทีแข็งกร้าวต่อจีน และเกาหลีเหนือ เธอมีท่าทีสนับสนุนให้ญี่ปุ่นเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ และขยายสิทธิ์ในการป้องกันเชิงรุก  นอกจากนี้เธอยังคงมีท่าทีที่จะกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นตามกรอบพันธมิตรความมั่นคงญีปุ่น – สหรัฐ เพื่อรับมือภัยคุกคามอินโด – แปซิฟิก และเธอยังเคยไปเยือนศาลเจ้ายาสุกุนิพร้อมกับสมาชิกรัฐสภาจำนวนหนึ่งในปี 2557 ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการทูตกัยจีนและเกาหลีใต้สืบเนื่องมาจากการยึดครองของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

การขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของซานาเอะนั้น เกิดขึ้นภายใต้แรงกดดันมหาศาล ทั้งจากแรงกดดันภายในพรรค LDP เองซึ่งมีความขัดแย้งภายในตั้งแต่หลังจากอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะประกาศลาออก ในปี 2563 ซึ่งเธอได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคด้วยคะแนนเสียงเพียงเกือบครึ่ง ทำให้ภารกิจเร่งด่วนของเธอคือการผสานรอยร้าวภายในอย่างเร่งด่วน และอีกเรื่องสภาวะการเป็นรับาลเสียงข้างน้อยของพรรค ทำให้ซานาเอะจำเป็นต้องผสานความร่วมมือจากพรรคการเมืองสายขวาจัดอย่างพรรค JIP เพื่อให้มีเสียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ 

“ฉันจะทำงานอย่างไม่เกรงกลัวและไม่หวั่นไหวต่อความเปลี่ยนแปลง เพื่อประเทศและประชาชนของเรา…ฉันมุ่งมั่นที่จะสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม เพื่อประเทศชาติและประชาชน เพื่อสร้างญี่ปุ่นให้เป็นประเทศที่เข้มแข็ง และฉันจะไม่มีวันยอมแพ้” ซานาเอะกล่าวในคำแถลงการต่อสื่อในวันแรกของการรับตำแหน่ง