เปิดเกร็ดประวัติ “สีไว้ทุกข์” จากรัชกาลที่ 5 ถึงปัจจุบัน แต่เดิมมีถึง 3 สี! “ดำ-ขาว-ม่วงแก่” แบ่งตามฐานะและความสัมพันธ์ ก่อนเหลือ “สีดำ” เป็นสัญลักษณ์แห่งความอาลัยของไทย
ข่าวที่น่าสนใจ
-
ชาวบ้านรวมตัวประท้วง! อดีตผู้ใหญ่บ้านยักยอกเงินออมกว่า 5 ล้านบาท สัญญาคืนเงินจะทยอยจ่าย แต่ชาวบ้านยังคาใจ
-
จากจีนถึงไทยแล้ว “พระเขี้ยวแก้ว” เตรียมเปิดให้สักการะ 5 ธ.ค. 67 – 14 ก.พ. 68..?
จากกรณีที่รัฐบาลได้มีแนวทางแนะนำให้ประชาชนทั่วไป แต่งกายไว้ทุกข์หรือพิจารณาตามความเหมาะสม เพื่อร่วมแสดงความอาลัยในช่วงเวลาสำคัญนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า เหตุใด “สีดำ” จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการไว้ทุกข์ในปัจจุบัน และแท้จริงแล้วในอดีตประเทศไทยมีการใช้ “สีอะไรบ้าง” เพื่อแสดงความอาลัย
เรื่องนี้มีบันทึกเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจในพระนิพนธ์ของ หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล พระธิดาใน สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ซึ่งทรงเล่าไว้ในเรื่อง “สีไว้ทุกข์ในสมัยรัชกาลที่ 5” ว่า
เดิมที การไว้ทุกข์ในสมัยโบราณจะใช้เครื่องแต่งกาย 3 สี ตามฐานะและความสัมพันธ์กับผู้ตาย ได้แก่
1️⃣ สีดำ — สำหรับผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีอายุแก่กว่าผู้ตาย
2️⃣ สีขาว — สำหรับผู้เยาว์ หรือผู้ที่อ่อนอายุกว่าผู้ตาย
3️⃣ สีม่วงแก่หรือน้ำเงินเข้ม — สำหรับผู้ที่ไม่ได้มีสายสัมพันธ์หรือเกี่ยวดองกับผู้ตาย

หลักฐานที่ชัดเจนคือภาพถ่ายในงานพระเมรุ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ร.ศ. ๑๒๔ (พ.ศ. 2448) ณ พระราชวังบางปะอิน ซึ่งปรากฏให้เห็นว่า สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี รวมถึงข้าราชบริพารฝ่ายใน ต่างแต่งกายไว้ทุกข์ตามธรรมเนียมดั้งเดิม — ผู้สูงวัยกว่าสวมสีดำ ส่วนผู้เยาว์กว่าสวมสีขาว
ต่อมาภายหลัง ธรรมเนียมการไว้ทุกข์ได้ถูก ผ่อนปรนและปรับให้เหลือเพียง “สีดำ” สีเดียว เพื่อความเรียบง่ายและเป็นสัญลักษณ์แห่งความอาลัยที่เข้าใจได้ในทุกชนชั้น และยังคงถือปฏิบัติเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
🖤 ดังนั้น “สีดำ” จึงไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความเศร้า แต่ยังสะท้อนถึง ความเคารพ ความอ่อนน้อม และการระลึกถึงคุณความดีของผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นธรรมเนียมอันงดงามที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นของสังคมไทย 🇹🇭