เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

9 พ.ย. 2568 พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกระแสข่าวเตรียมส่งเชลยศึกกัมพูชากลับประเทศบ้านเกิดในวันที่ 12 พ.ย. นี้ว่า จะมีการประเมินจากคณะผู้สังเกตการณือาเซียน (AOT) และสองรัฐบาล หากปฏิบัติตามกรอบที่วางไว้ ก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องคุมตัวไว้ รวมถึงข้อมูลที่หารืออยู่ในระดับรัฐบาล ไม่ใช่ระดับกองทัพ

ส่วนประเด็นเรียกร้องขอทำฟันก่อนส่งตัวกลับนั้น พล.ท.อดุลย์ กล่าวว่า มีมากกว่านั้นอีก บางรายก็ไม่อยากกลับ เพราะอยู่ในประเทศไทยแล้วมีความสุข ทั้งนี้ก่อนการส่งตัวกลับอาจจะให้สัมภาษณ์ จึงอยากขอให้สื่อได้ถามว่าอยู่ในประเทศไทยแล้ว กลุ่มเชลยดังกล่าวสบายอย่างไร การปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติหรือไม่

ส่วนจะมีการปล่อยตัวที่จังหวัดจันทบุรีหรือไม่ ยังไม่ได้ได้รับรายงาน แต่ยืนยันว่าเป็นจุดผ่านแดนถาวรชายแดนไทย-กัมพูชา

ส่วนการปล่อยตัวจะยืดเวลาออกไป หากกัมพูชาไม่ปฏิบัติตาม 4 ข้อตกลง ใช่หรือไม่ พล.ท.อดุลย์ ระบุว่า ต้องคุยกัน แต่ขณะนี้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงตามปกติ และขออย่าให้สนใจกรณีที่มีกระแสข่าวว่าประเทศสหรัฐอเมริกา กดดันไทยให้ปล่อยตัวเชลยศึก ตนขอยืนยันว่า ทั้งอเมริกาและมาเลเซียไม่ได้กดดัน

ส่วนที่ประชาชนกังวลกรณีปราสาทตาควาย  พล.ท.อดุลย์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติที่สืบเนื่องมาจากการลงนามประกาศความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา ณ ประเทศมาเลเซียที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการปฏิบัติตาม 4 ข้อตกลงในเฟสที่ 1 ส่วนคลิปที่ปรากฏว่า มีการขัดขวางทหารไทยนั้น มองว่า เป็นเรื่องปกติของกำลังทหารที่ใกล้กันและทุกฝ่ายต่างหวงแหนดินแดน ยืนยันว่า ตั้งแต่รับราชการปี 2553 มานั้น อธิปไตยของไทยอยู่ในอัตราส่วนแผนที่ 1:50,000


เมื่อถามย้ำว่าปราสาทตาควายเป็นเพียงการเสียควบคุมใช่หรือไม่ พล.ท.อดุลย์ กล่าวว่า เป็นผลจากการตกลงให้คำประกาศความสัมพันธ์ฯ เมื่อสงครามยุติใครครอบครองตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น โดยเฉพาะพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม และพื้นที่อื่น ๆ เราก็สามารถครอบครองไว้ได้หมด