เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 16 พ.ย. 2568 พล.ต.ต.สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อม พ.ต.อ.ชาตรี ชูแก้ว ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต และชุดสืบสวน นำกำลังบุกตรวจค้นโกดังต้องสงสัยภายในโบ๊ทพลาซ่า ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังสืบทราบว่าใช้เป็นสถานที่ซุกซ่อนสินค้าสำหรับหลอกลวงผู้เสียหายผ่านการเก็บเงินปลายทาง (COD)

เมื่อเข้าตรวจสอบพบอาคารพาณิชย์ 1 คูหา ด้านในเต็มไปด้วยกล่องพัสดุและถุงกระสอบบรรจุกล่องจำนวนมาก โดยมีหญิงสาวและคนงานกำลังร่วมกันแพ็คสินค้าใส่กล่อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวหญิงผู้ต้องสงสัยคือ น.ส.ขนภา หรือมุข อายุ 31 ปี ชาวตรัง พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวนมาก

 

จากการตรวจสอบพบสินค้าในโกดังนับหมื่นชิ้น ทั้งสบู่ ครีมทาผิว ยาสระผม ครีมบำรุง และเครื่องสำอางราคาถูกจากต่างประเทศ โดยทั้งหมดถูกจัดเตรียมเพื่อส่งไปทั่วประเทศแบบเก็บเงินปลายทาง แม้ผู้รับพัสดุส่วนใหญ่ ไม่เคยสั่งซื้อสินค้า มาก่อน

น.ส.ขนภาให้การว่า เดิมเป็นแม่ค้าออนไลน์ ก่อนผันตัวมาเปิดกิจการส่งพัสดุหลอกเก็บเงินปลายทาง โดย ซื้อรายชื่อลูกค้าจากบริษัทขนส่งเอกชน ชื่อละ 1 บาท จากนั้นนำชื่อมาติดบนกล่องและส่งไปยังบ้านเหยื่อทั่วประเทศ เก็บเงินปลายทางเฉลี่ยกล่องละ 150 บาท

 

ผู้ที่รับสินค้าและจ่ายเงินจะถูกหลอกสำเร็จ ส่วนผู้ที่ปฏิเสธรับพัสดุ สินค้าจะถูกตีกลับบริษัทขนส่ง และถูกนำส่งคืนโกดัง ซึ่งคนงานจะนำสินค้ากลับมาแพ็คใหม่ เปลี่ยนชื่อผู้รับแล้วส่งออกอีกครั้ง ทำเช่นนี้เป็นวัฏจักรจนมีรายได้เฉลี่ย วันละเกือบ 100,000 บาท

ผู้ต้องหาเปิดทำการตั้งแต่เดือน ส.ค. 2567 มียอดส่งออกไปแล้วกว่า 2,000 ชิ้นก่อนถูกจับกุมครั้งนี้

ของกลางที่ตรวจยึดได้รวมทั้งสิ้น 20,829 ชิ้น

  1. สินค้าผิดกฎหมาย 7,492 ชิ้น

  2. อุปกรณ์พัสดุ 5,223 ชิ้น

  3. พัสดุแพ็คแล้ว 3,890 ชิ้น

  4. พัสดุพร้อมส่ง 1,099 ชิ้น

  5. พัสดุตีกลับ 3,125 ชิ้น

รวมมูลค่าความเสียหายจากการเก็บเงินปลายทางโดยประเมินเฉลี่ยกล่องละ 150 บาท อยู่ที่กว่า 3.1 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่นำตัว น.ส.ขนภา พร้อมของกลางทั้งหม

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ทหารกองกำลังบูรพา นำกำลังพลคุ้มกันความปลอดภัย และช่วยชาวนาในพื้นที่ชายแดนจังหวัดสระแก้วเกี่ยวข้าว

สาวสวยหน้าตาดี แต่งตัวดี กลิ่นน้ำหอมฟุ้ง ค้างค่าเช่าห้อง พอไปเปิดห้องดูปรากฏว่าขยะเกลื่อนห้อง