วันที่ 9 ธ.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงได้เผยแพร่ข้อมูลเตือนภัยเกี่ยวกับ “ยุทธวิธีโดรน FPV ของฝ่ายตรงข้าม” ซึ่งพบการประยุกต์ใช้ในลักษณะการรบสมัยใหม่มากขึ้น โดยเน้นเตือนกำลังพลประจำพื้นที่เสี่ยงให้ระมัดระวังการเข้าตีจากโดรนชนิดบังคับแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPV UAV) ซึ่งสามารถบรรทุกวัตถุระเบิดและเลือกเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
พฤติกรรมการเข้าตีของข้าศึก
ข้อมูลระบุว่า การโจมตีด้วยโดรน FPV มักเริ่มจากการใช้ “โดรนนำร่อง” เพื่อหาพิกัดเป้าหมาย ก่อนส่งโดรนชุดหลักเข้าประกบโจมตี โดยบางส่วนถูกใช้เป็นตัวล่อหรือระบุเป้าหมายให้ถูกต้อง นอกจากนี้ โดรนยังสามารถบรรทุกอาวุธได้หลากหลาย เช่น ลูกระเบิด ค.82 มม. รวมถึงอุปกรณ์ติด GPS เพื่อให้ร่องรอยตำแหน่งชัดเจน
ภัยคุกคามที่ตรวจพบ
หน่วยข่าวกรองเตือนว่า ฝ่ายตรงข้ามมักยิงอาวุธหนัก เช่น BM-21 เพื่อบังคับให้กำลังพลแตกกระจาย และใช้โดรน FPV ตามเข้าโจมตีซ้ำ โดยอาจพุ่งเข้าใส่กลุ่มทหารที่กำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ ทำให้เกิดการสูญเสียได้ง่าย หากยังคงรวมกลุ่มกันอยู่บริเวณเดิม
ข้อแนะนำด้านความปลอดภัย
ฝ่ายความมั่นคงย้ำกำลังพลในพื้นที่เสี่ยงให้ปฏิบัติดังนี้
-
ห้ามรวมกลุ่มทันทีเมื่อพบเสียงโดรน เนื่องจากเป็นเป้าล่อของ FPV
-
หากพบอุปกรณ์ต้องสงสัยที่มีสัญญาณ GPS ให้รีบทำลายหรือแยกชิ้นส่วน แล้วนำออกจากพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้โดรนติดตามสัญญาณมาถึงกำลังพล
-
ห้ามเก็บโดรนหรือวัตถุต้องสงสัยที่บรรทุก ค.82 มม. เพราะอาจระเบิดได้เองหรือถูกตั้งค่าระเบิดอัตโนมัติ
สรุปมาตรการ
หน่วยงานความมั่นคงเน้นย้ำว่า ต้องระวังอุปกรณ์ติด GPS หลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มจำนวนมาก และทำลายอุปกรณ์เมื่อปลอดภัย เพื่อป้องกันโดรน FPV ถูกนำมาใช้โจมตีซ้ำ ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในสนามรบสมัยปัจจุบัน

ขอบคุณข้อมูลจาก – กองทัพภาคที่ 2