เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 และผู้แทนจากกองทัพบกและกองทัพอากาศ เรียกประชุมด่วนฝ่ายความมั่นคง เพื่อวางมาตรการรับมือกรณีตรวจพบโดรนลักลอบบินใกล้พื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังได้รับแจ้งจากประชาชนในพื้นที่ว่าพบโดรนบินวนเวียนบริเวณรั้วสนามบินช่วงวันที่ 20–21 ธันวาคมที่ผ่านมา

เบื้องต้นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ประกาศพื้นที่สนามบินเป็นเขตหวงห้ามเด็ดขาด พร้อมยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในทุกมิติ โดยระหว่างรอการจัดซื้อระบบป้องกันถาวรที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กองทัพอากาศได้ส่งชุดอุปกรณ์ต่อต้านอากาศยาน Red Sky-II รวมถึงปืน Drone Killer และ Drone Defender เข้าประจำการทันที ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สนับสนุนระบบ Anti-Drone และเพิ่มกำลังตั้งด่านตรวจรอบสนามบินตลอด 24 ชั่วโมง

นายกิตติพงศ์ ย้ำว่า สนามบินสุวรรณภูมิเป็นพื้นที่ความมั่นคงระดับสูง การนำโดรนขึ้นบินโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิดร้ายแรงตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ขอให้ประชาชนและผู้ใช้งานโดรนตระหนักถึงความปลอดภัยของการบินและผู้โดยสารเป็นสำคัญ

ส่วนกรณีมีรายงานพบนักท่องเที่ยวต่างชาติในพื้นที่ต้องสงสัยนั้น จากการตรวจสอบพบว่าเป็นเพียงบุคคลที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเครื่องบิน ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุโดรนป่วนแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังแนะนำประชาชนรอบสนามบินให้สังเกตความแตกต่างระหว่างเครื่องบินกับโดรน โดยเครื่องบินจะมีไฟแฟลชสีขาวกระพริบอย่างชัดเจน ขณะที่โดรนจะมีเสียงใบพัดดังและไม่มีไฟลักษณะดังกล่าว หากพบเห็นสิ่งผิดปกติขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดของการบินและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ขอบคุณข้อมูลจาก – โจโฉ