วันที่ 28 ธ.ค. 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชนและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาชน ไม่ได้มาจากการแบ่งโควต้าทางการเมืองหรือการรวมกลุ่มย้ายพรรคเหมือนบางพรรคการเมือง แต่ผ่านการคัดเลือกจากความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญตรงสายอย่างแท้จริง
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า พรรคตั้งเป้าจำนวน สส.บัญชีรายชื่อไว้ในระดับสูงสุด เพื่อให้พรรคมีความเข้มแข็งเพียงพอในการจัดตั้งรัฐบาล และไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการผิดสัญญาทางการเมืองอีก พร้อมยืนยันว่าพรรคไม่มีความกดดัน และมั่นใจว่าจะได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้น จากประสบการณ์ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล จนถึงพรรคประชาชน ซึ่งสามารถทำผลงานได้ดีกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้เสมอ
อย่างไรก็ตาม นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า พรรคไม่เคยดูถูกคะแนนเสียงของประชาชน และไม่มีพรรคการเมืองใดเป็นเจ้าของประชาชนได้ตลอดไป โดยจากนี้จนถึงวันเลือกตั้ง 8 ก.พ. จะเป็นหน้าที่ของผู้สมัครและแกนนำพรรคในการลงพื้นที่พบปะประชาชนให้มากที่สุด เพื่อขอคะแนนเสียงให้ได้มากที่สุด
เมื่อถูกถามถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งรัฐบาล หากพรรคประชาชนได้เป็นพรรคอันดับหนึ่ง นายณัฐพงษ์ ระบุว่า การจับมือกับพรรคใดขึ้นอยู่กับการยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชน โดยเฉพาะมาตรฐานทางจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พร้อมย้ำว่าไม่ควรนำประเด็นมาตรา 112 มาใช้ในการหาเสียงอีก หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยชัดเจนแล้ว
นายณัฐพงษ์ ยังระบุว่า พรรคประชาชนตั้งเงื่อนไขชัดเจนว่า ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในอนาคต ต้องไม่มีประวัติพัวพันกับยาเสพติด บ่อนการพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย เครือข่ายสแกมเมอร์ หรือกิจกรรมสีเทา โดยยึดหลักว่ามาตรฐานของนักการเมืองต้องสูงกว่ากฎหมาย และต้องสามารถตรวจสอบได้
ด้านนายวีระยุทธ กาญจน์ชูฉัตร แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคประชาชน กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา แกนนำพรรคได้แยกย้ายกันลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้สมัคร สส. ทั่วประเทศ โดยตนได้ลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อขอโอกาสจากประชาชน หลังจากพรรคทำหน้าที่ฝ่ายค้านมาอย่างเต็มที่ และต้องการโอกาสในการเข้าบริหารประเทศเพื่อผลักดันนโยบายที่เสนอไว้
นายณัฐพงษ์ กล่าวย้ำว่า เป้าหมายสูงสุดของพรรคคือการชนะการเลือกตั้งให้ได้มากที่สุด เพื่อให้มีเสียงในสภาเพียงพอในการกำหนดเงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาล และป้องกันไม่ให้เกิดการผิดคำมั่นสัญญาทางการเมืองซ้ำรอยในอดีต
ข่าวที่น่าสนใจ
กันจอมพลัง ตอบปม ถืออาร์มทหารเขมรยิ้มเยาะเย้ย ลั่นไม่ชอบก็เรื่องของพวกคุณ ใครปากดีก็แค่ฟ้อง
ไทยปิดจ๊อบปืนใหญ่ ก่อนหยุดยิงจะมีผล ถล่มใส่คาสิโนเขมรที่ถูกแปลงเป็นฐานทหาร