เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายนรินทร์ อรุณวงศ์ อายุ 28 ปี และเด็กหญิงนันท์นลิน อรุณวงศ์ หรือ น้องสตางค์ บุตรสาววัย 12 ปี ที่ห้องเช่าเล็กๆ ที่อยู่ในสภาพเก่าทรุดโทรม อยู่บริเวณปากซอยวังปลา ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ทั้งนี้ นายนรินทร์ พิการที่ขาทั้งสองข้าง ที่ลำคอแพทย์ได้เจาะรูใส่ท่อสเตนเลสเอาไว้ให้เพื่อดูดเสลดออกจากลำคอ เวลาจะพูดก็ต้องเอานิ้วมืออุดท่อดังกล่าวเอาไว้ถึงจะพูดมีเสียง

นายนรินทร์ กล่าวว่า 5 ปีที่ผ่านมา ตนทำงานอาชีพก่อสร้าง และพลัดตกจากนั่งร้านที่มีความสูงเท่าตึก 3 ชั้นลงมากระแทกพื้นด้านล่างจนกระดูกต้นคอแตก ทำให้ไปกดทับเส้นประสาทส่วนล่าง จนขาทั้งสองข้างใช้งานไม่ได้ หลังจากที่ภรรยาดูแลอยู่ได้ประมาณ 3 ปี ก็หอบลูกคนเล็กหนีความลำบากไป และพยายามชวนน้องสตางค์ให้ไปด้วย

ทั้งนี้ ด้วยความกตัญญูเห็นถึงความลำบากของผู้เป็นพ่อ น้องสตางค์ ตัดสินใจอยู่ดูแลพ่อไม่ยอมหนีไปกับแม่ ด้วยคำตอบที่ว่า ถ้าหนูไปแล้วพ่อจะอยู่อย่างไร ซึ่งตนเคยเอ่ยปากถามลูกว่าเหนื่อยไหม แต่ลูกกลับบอกว่า หนูเหนื่อยไม่เท่ากับที่พ่อเหนื่อย

“ผมได้ยินแล้วร้องไห้ ผมรู้ว่าลูกสาวเหนื่อยแทบขาดใจ และท้อแท้กับชะตาชีวิตของตัวเองถึงกับนั่งร้องไห้อยู่หน้าบ้าน”

อย่างไรก็ตาม สังคมสงเคราะห์ ได้มอบข้าวให้เดือนละ 2 ถุง แพมเพิร์สผู้ใหญ่ 2 ห่อ และเงินอีก 500 บาท มอบให้เดือนละ 1 ครั้ง เท่านั้น ส่วนเงินที่ได้รับบริจาคช่วยเหลือมาก็เหลือน้อยเต็มที เนื่องจากต้องเก็บไว้ให้เป็นค่าเล่าเรียนของน้องสตางค์ ที่กำลังจะเข้าเรียนในชั้นมัธยม กลางปีหน้า

ทุกวันนี้ต้องอาศัยเด็กวัดเอาข้าวที่พระฉันเหลือมาให้ และได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านเท่านั้น ตนอยากให้มีคนมาดูแลในเรื่องการศึกษาให้กับน้องสตางค์ เพราะต้องมีค่าใช้จ่ายอีกเยอะ เพราะในกลางปีหน้าน้องสตางค์จะต้องขึ้นไปเรียนในระดับชั้นมัธยม คงต้องมีค่าใช้จ่าย

“ผมอยากมีงานทำ เพราะมือทั้งสองข้างของผมยังใช้งานได้ จะได้มีเงินมาแบ่งเบาภาระในบ้านบ้าง ขอสักวันละ 50 บาทก็พอ เพราะตอนนี้ที่ห่วงก็เรื่องการเรียนของลูกสาวอยากให้เขาได้เรียนสูงๆ”

ส่วนน้องสตางค์ บอกว่า อยากให้พ่อหายไวๆ และอยากที่จะเรียนต่อโดยตั้งใจไว้ว่า จะเรียนเป็นพยาบาล จะได้มารักษาพ่อให้หาย เพราะรักพ่อมากที่สุด ซึ่งปกติเช้ามาตนก็จะทำกับข้าวให้พ่อกินบ้าง เอากระโถนใส่สิ่งปฏิกูลที่พ่อขับถ่ายออกมาไปเททิ้ง และก็ล้างช่วยเช็ดตัวล้างแผลที่ก้นให้พ่อ หลังจากนั้นจึงไปโรงเรียน

หากเลิกเรียนก็เอากระสอบเดินไปเก็บของเก่าประเภทขวดน้ำพลาสติกตามถังขยะเอาไปขาย และบางครั้งก็ไปรับจ้างเขาขายผักที่ท้ายซอยได้ค่าจ้างครั้งละ 50 บ้าง 20 บ้างแล้วแต่ว่าขายดีหรือไม่ เพื่อนำเงินมาดูแลพ่อ และเป็นทุนการศึกษา

สำหรับผู้ที่อยากร่วมบริจาคช่วยเหลือการศึกษาให้กับน้องสตางค์ สามารถร่วมบริจาคได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาบางปู เลขบัญชี 217-0-38423-5 นายนรินทร์ อรุณวงศ์

ที่มา – ไทยรัฐ