การแข่งขันฟุต บอลโลก 2018 เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. คู่แรกที่ มอร์โดเวีย อารีน่า เป็นการแข่งขันนัดแรกในกลุ่มเอช โคลัมเบีย อันดับ 16 ของโลก ลงสนาม ญี่ปุ่น อันดับ 61 ของโลก โดยสถิติที่เคยพบกันในฟุตบอลโลก 1 นัด โคลัมเบีย เป็นฝ่ายชนะ 4-1
เริ่มเกมได้เพียง 3 นาที ญี่ปุ่นสาดบอลยาวจากแดนหลังไปหน้าประตู ให้ “ยูยะ โอซาโกะ” ใช้ความแข็งแกร่งวิ่งเบียดหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงติดเซฟ “ดาบิด ออสปินา” นายด่านโคลัมเบียในจังหวะแรก ก่อนที่บอลจะเด้งมาเข้าทาง “ชินจิ คางาวะ” ซ้ำดาบสอง ไปติด “การ์ลอส ซานเชซ” ที่ตั้งใจยื่นมือออกมาปัดบอล ผู้ตัดสินไม่รอช้าวิ่งมาเป่าจุดโทษให้ญี่ปุ่น พร้อมควักใบแดงไล่ “การ์ลอส ซานเชซ” ออกจากสนาม ซึ่งถือเป็นใบแดงที่เร็วที่สุดอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกด้วยเวลา 2 นาที 54 วินาที ส่วนสถิติที่เร็วที่สุดยังเป็น “โฮเซ่ บาติสตา” นักเตะอุรุกวัยเมื่อปี 1986 ซึ่งโดนใบแดงในนาทีที่ 1 ขณะที่จังหวะยิงจุดโทษเป็น คางาวะ ที่จะลุกขึ้นมาทำหน้าที่สังหารเข้าไปกลางประตูให้ญี่ปุ่นขึ้นนำ 1-0
หลังจากนั้นโคลัมเบียพยายามเปิดเกมรุกเพื่อทวงประตูคืน ขณะที่ญี่ปุ่นลงไปคุมโซนและรอสวนกลับ นาที 39 โคลัมเบีย ได้ฟรีคิกนอกกรอบเยื้องไปทางด้านขวา ก่อนเป็น “เฟร์นันโด กินเตโร” ที่หลอกยิงเลียดไปที่เสาแรก แม้ “เอจิ คาวาชิมะ” ผู้รักษาประตูญี่ปุ่น จะพยายามพุ่งมาคว้าไว้แต่บอลข้ามเส้นโกลไลน์ไปเรียบร้อยส่งให้ โคลัมเบีย ตามตีเสมอ 1-1
ครึ่งหลังญี่ปุ่นกลับลงมาพับสนามบุก ชนิดครองเกมอยู่ฝ่ายเดียว จนกระทั่งนาที 74 ญี่ปุ่นได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย “เคซึเกะ ฮอนดะ” ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน “ชิจิ คางาวะ” นาที 70 เปิดเข้าไปกลางประตู “ยูยะ โอซาโกะ” เทกตัวขึ้นโขกสบัดไปที่เสาสองเป็นประตูให้ญี่ปุ่น ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1
ครึ่งหลังญี่ปุ่นกลับลงมาพับสนามบุก ชนิดครองเกมอยู่ฝ่ายเดียว จนกระทั่งนาที 74 ญี่ปุ่นได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย “เคซึเกะ ฮอนดะ” ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทน “ชิจิ คางาวะ” นาที 70 เปิดเข้าไปกลางประตู “ยูยะ โอซาโกะ” เทกตัวขึ้นโขกสบัดไปที่เสาสองเป็นประตูให้ญี่ปุ่น ขึ้นนำอีกครั้ง 2-1