ยังดราม่าต่อเนื่องกับเรื่องประหารนักโทษแถมยังดราม่าไปไกลข้ามโลกเลย เมื่อคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทยได้เผยแพร่แถลงการณ์ของโฆษกของผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรป (อียู) และรองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เกี่ยวกับการประหารชีวิตที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยระบุว่า ในปี 2562 ก็จะครบรอบ 1 ทศวรรษแล้ว นับตั้งแต่การประหารชีวิตครั้งสุดท้ายในไทย ซึ่งจะทำให้ไทยเข้าไปอยู่ในรายชื่อร่วมกับประเทศอื่นๆที่พักการใช้โทษประหารชีวิตอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสิ่งที่สหภาพยุโรปคาดหวังไว้ ผ่านการหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย
แต่การประหารชีวิตนายธีรศักด์ แสดงให้เห็นถึงการก้าวถอยหลังอย่างชัดเจน อียูต่อต้านโทษประหารชีวิตไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ใดๆ และมุ่งมั่นที่จะทำให้เกิดการยกเลิกโทษประหารชีวิตทั่วโลก เนื่องจาก การประหารชีวิตเป็นการลงโทษที่โหดร้ายและไร้มนุษยธรรม ซึ่งไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งการกระทำผิด และยังเป็นการปฏิเสธศักดิ์ศรีและความเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับไม่ได้ สหภาพยุโรปจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยงดเว้นการประหารชีวิตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ดำเนินการเพื่อพักการใช้โทษประหารและยกเลิกโทษประหารชีวิตในที่สุด