เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 21 มิ.ย.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตก ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาลดลง ส่งผลให้ชาวบ้านชุมชนวัดจุฬามณี ม.7 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่อาศัยอยู่ริมน้ำได้รับผลกระทบตลิ่งพังทลายลงไปในแม่น้ำจนถึงเสาของตัวบ้าน หวั่นบ้านจะพังลงแม่น้ำทั้งหลัง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เดินทางไปตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบว่า ที่บ้านของ นางอุ่นเรือน ดนตรี อายุ 60 ปี บ้านเลขที่ 21 หมู่ 7 ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากมีการทรุดตัวของดิน ทำให้ทางเข้าออกบ้านพังทลายลงไป สูงกว่า 4 เมตร ดินทรุดจนถึงตัวบ้าน รวมถึงบ้านเรือนในละแวกเดียวกันอีกหลายหลังที่ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน ซึ่งเกิดเหตุแบบนี้มาทุกปี แต่ก็ยังไม่มีการเร่งแก้ไข

นางอุ่นเรือน เล่าว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก ทำให้ตลิ่งเกิดการทรุดตัวลงเรื่อยๆ จนถึงตัวบ้าน สูงกว่า 4 เมตร ทำให้ทางเข้าออกบ้านพัง เหลือเพียงคานปูนที่แบกรับน้ำหนัก จนต้องเอาผ้าใบมาคลุมปิดรอบบ้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝนที่ตกลงมาชะหน้าดินทลายลงไปอีก เบื้องต้น ได้ประสานไปยังเทศบาลตำบลบางบาล มีการนำทรายมาถมให้ อีกทั้งชาวบ้านที่เดือดร้อนต่างช่วยกันนำกระสอบทรายไปวางไว้ชั่วคราวตามแนวดินที่ทรุดตัว

ส่วนบ้านของ นายประมวน นัยกิจ อายุ 80 ปี บ้านเลขที่ 22/1 ม.7 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านอยู่ใกล้กัน เมื่อปีก่อนได้รับผลกระทบทรุดหนัก แต่ก็ยังไม่มีการเข้ามาช่วยเหลือ ยังคงต้องนอนผวารอคอยความหวังจากหน่วยงานให้มาช่วยแก้ไขปัญหานี้ จากบ้านหลังใหญ่ตอนนี้รื้อเกือบหมดเหลือพอแค่เอาไว้นอนถ้าเกิดตลิ่งทรุดอีก ก็ไม่รู้จะไปอาศัยอยู่ที่ไหน

ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นช่วงโค้งน้ำ ที่ผ่านมาเคยมีบ้านพังทลายลงไปในน้ำมาแล้วหลายครั้ง ชาวบ้านต้องเร่งช่วยเหลือตัวเอง อีกทั้งมีเรือบรรทุกวิ่งผ่านทุกวัน ทำให้ตลิ่งเริ่มทรุดตัวมากขึ้น ตอนนี้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างหวาดผวากลัวบ้านจะไหลลงไปในน้ำ

ล่าสุด นายภาณุวัฒน์ สุพิมพานนท์ นายอำเภอบางบาล เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมประชาชนที่เดือดร้อน ได้สั่งการให้เทศบาลตำบลบางบาล นำทรายมาถมอย่างต่อเนื่อง จนกว่าชาวบ้านจะมั่นใจถึงความปลอดภัย รวมถึงทางเข้าออกบ้านของนางอุ่นเรือน ได้สั่งให้ทำทางเข้าออกชั่วคราวก่อน และเตรียมลงเสาเข็มเพื่อป้องกันตลิ่งพังเพิ่มขึ้น