ลุงน้องเมย์จี้ประหารชีวิตอดีตแฟนเก่า เผยรับไม่ได้เห็นศพหลานถูกหั่นเป็นชิ้นๆ

ลุง “น้องเมย์” เหยื่อถูกฆ่าหั่นศพ ยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เรียกร้องให้รับโทษประหารชีวิต-ด้านแม่กับพ่อ ยังทำใจไม่ได้ ครอบครัวดูแลใกล้ชิด

จากกรณีพบศพหญิงสาวผมแดงถูกฆ่าหั่นศพ แยกชิ้นส่วนรวม 14 ชิ้น ยัดใส่กระสอบปุ๋ยโยนทิ้งอยู่ในป่าซอยสามวา ตรงข้ามโรงงานที่นอนดาริ่ง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้เสียชีวิตคือน.ส.ลักษณา หรือเมย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.8 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด อดีตพนักงานบัญชี บริษัทแห่งหนึ่ง ซอยเลียบคลองสอง 29 ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ก่อนสามารถควบคุมตัวนายธนกฤต หรือวุธ ประกอบ อดีตแฟนหนุ่มของผู้ตายมาสอบปากคำ ขณะเดียวกันภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าห้องพักของนายธนกฤต บริเวณซอยสีหบุรานุกิจ 10 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. ปรากฏให้เห็นว่าเมื่อเวลา 18.44 น. ของวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.ลักษณา พร้อมด้วยนายธนกฤต ได้เดินทางมาที่ห้องพักดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อเวลา 04.24 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายธนกฤต ออกมาจากห้องพักเพียงลำพังโดยไม่พบน.ส.ลักษณา ออกมาด้วยอีกเลยจนกระทั่งมาพบกลายเป็นศพดังกล่าว

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 มิ.ย. ที่สน.มีนบุรี นายสมคิด จะมัง อายุ 59 ปี ลุงของน.ส.ลักษณา หรือน้องเมย์ อายุ 24 ปี ชาวจ.ร้อยเอ็ด ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้น้องเมย์เคยมีครอบครัวและมีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนจะเลิกรากันไป จากนั้นน้องเมย์ก็เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ จึงได้รู้จักกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งน้องเมย์เคยพาผู้ก่อเหตุมาพบพ่อแม่ ซึ่งทางครอบครัวรับรู้ว่าคบหากัน ประมาณ 1-2 ปีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุนิสัยใจคอเป็นอย่างไร กระทั่งเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ทางตำรวจได้โทรศัพท์มาหาญาติในจ.นครสวรรค์ จึงทราบว่าหลานสาวเสียชีวิต ทางครอบครัวที่อยู่ต่างจังหวัดและอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ จึงเดินทางมาเพื่อติดต่อขอรับศพน้องเมย์กลับไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนาที่วัดดงหัวเรือ ตำบลนาใหญ่ อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด

นายสมคิด เปิดเผยอีกว่า อยากฝากให้เรื่องนี้ไปถึงนายกรัฐมนตรีและผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง ทางครอบครังขอเรียกร้องให้มีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาในโทษประหารชีวิต เพราะหากไม่ประหารชีวิตก็จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เนื่องจากคนเห็นว่าก่อเหตุแล้วโทษหนักสุดก็แค่จำคุกไม่กี่ปี จึงทำให้หลายคนไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย

“แค่รู้ว่าหลานเสียชีวิตก็เสียใจที่สุดแล้ว ยิ่งพอมารู้ว่าโดนหั่นศพด้วยก็ยิ่งรับไม่ได้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด และจะเรียกร้องให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษประหารชีวิต” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด เปิดเผยอีกว่า ทั้งนี้สภาพจิตใจของครอบครัว ยังไม่มีใครรับได้ โดยทางมารดาของน้องเมย์ยังทำใจไม่ได้ ทางครอบครัวต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งวันนี้ทางน้องชายตนจะเดินทางมาติดต่อรับศพน้องกลับภูมิลำเนา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางพ่อของน้องเมย์เดินทางมาพร้อมกับญาติ โดยทางญาติต้องคอยพยุงพ่อของน้องเมย์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งพ่อของน้องเมย์มีอาการจะเป็นลมและร้องไห้เสียใจ