เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

การหายตัวไปอย่างลึกลับของนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชรวม 13 ชีวิต ที่ ถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย สร้างความตกใจให้กับคนไทยอย่างมาก และหลายคนก็กำลังเอาใจช่วยให้ทีมผู้ค้นหาเจอพวกเขาในเร็ววัน แต่ทั้ง 13 รายนี้ ไม่ใช่คนกลุ่มแรกที่หายตัวไปในถ้ำแห่งนี้ เพราะเมื่อปี 2559 ก็เคยเกิดกรณีคนหายในกลุ่มถ้ำเดียวกันนี้มาแล้ว

เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 2559 มีการรายงานว่านักท่องเที่ยวคนหนึ่งคล้ายคนจีนหรือคนญี่ปุ่น วัยราว 50-60 ปี ได้ปั่นจักรยานสีฟ้ามาที่ถ้ำทรายทอง ซึ่งเป็นถ้ำที่เชื่อมต่อกับถ้ำหลวงแห่งนี้ เมื่อพ่อค้าแม่ค้าบริเวณจุดขายของ ถามว่ามาทำอะไร เขาตอบเพียงว่า มานั่งสมาธิ 2-3 วัน จึงขอฝากจักรยานไว้ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าได้รับปากจะดูแลให้ แต่เมื่อผ่านไป 7 วัน ก็ยังไม่เห็นชายคนนั้นออกมาจากถ้ำ หลังจากมีการแจ้งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ ก็ได้ค้นหาตัวชายดังกล่าว และทีมกู้ภัยสำรวจเข้าไปลึกถึง 2 กิโลเมตร พบลำธารในถ้ำที่ไหลเชี่ยว ขณะที่ผนังถ้ำก็มีแต่หยดน้ำ

อย่างไรก็ดี เมื่อปลายเดือน ต.ค. หรือหลังจากเกิดเหตุเกือบ 3 เดือน มีการรายงานว่า พบตัวชายคนดังกล่าว คือนายสุทธิโรจน์ พลยุทธศาสตร์ เคยเป็นอาจารย์สอนพิเศษภาษาจีนที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ไม่ใช่นักท่องเที่ยวอย่างที่ชาวบ้านกล่าว โดยพบที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ที่เขากำลังขอเข้าพักแต่ไม่มีเงิน พนักงานจึงแจ้งเจ้าหน้าที่มานำตัวไปดูแล เนื่องจากมีท่าทางอิโรย มีรอยข่วน และมีแผลที่เท้า นายสุทธิโรจน์ ได้กล่าวกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนลาออกจากการเป็นอาจารย์สอนพิเศษ และได้เข้าไปในถ้ำดังกล่าว เพื่อนั่งสมาธิจริง

ส่วนกรณีนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทั้ง 13 ชีวิตที่หายไป ได้มีการค้นหาหลังจากทราบเรื่อง ทั้งยังมีหน่วยซีลเข้ามาเสริมปฏิบัติการค้นหาครั้งนี้ แต่ก็ต้องเอาใจช่วยและลุ้นกันต่อไปว่าจะสำเร็จหรือไม่ เนื่องจากมีอุปสรรคมากมายตั้งแต่ความมืด ความลึกที่มีผลต่ออากาศสำหรับหายใจ และกระแสน้ำ