จากกรณีที่ผู้ฝึกสอนและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า รวมทั้งสิ้น 13 คน ติดอยู่ภายในถ้ำในพื้นที่ วนอุทยานถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน จนถึงขณะนี้ ผ่านไปมากกว่า 100 ชั้วโมงแล้ว
ที่โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ จ.เชียงราย ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่เยาวชนทีมหมูป่า กำลังศึกษาอยู่จำนวน 6 คน เพื่อนนักเรียนชั้น ม.2 ซึ่งเป็นนักฟุตบอลในกลุ่มเดียวกัน เปิดใจว่า ตัวเองต้องฝึกซ้อมกับกลุ่มเพื่อนผู้สูญหายด้วยกันทุกวัน ซึ่งตนจะอยู่ในตำแหน่งหลังซ้าย โดยในทีมมีกันประมาณ 30-40 คน และเพื่อนกลุ่มนี้ยังชอบนัดกันไปทำกิจกรรมผจญภัยกันเป็นประจำ
บางครั้งก็ชอบปั่นจักรยานไปขึ้นดอยด้วยกัน ซึ่งก่อนที่กลุ่มเพื่อนจะไปเที่ยวถ้ำกัน ตัวเองก็เห็นว่ามีการชวนกันไปเมื่อตอนเย็นวันอังคารสัปดาห์ก่อน โดยไม่ได้แจ้งว่าไปทำกิจกรรมอะไรกัน จึงคาดว่าน่าจะไปเที่ยวพักผ่อนกันตามปกติ เพราะพวกเพื่อนๆ เคยเข้าไปแล้วหลายครั้ง
ส่วนตัวก็รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว เพราะได้รับข่าวจากเจ้าหน้าที่ว่ามีร่องรอยของเพื่อน จึงมั่นใจว่าเพื่อนต้องยังมีชีวิตอยู่ และมั่นใจว่าทั้งหมดต้องยังเกาะกลุ่มไปด้วยกัน เพราะเพื่อนๆ รักกันมาก ในตอนนี้เพื่อนๆ ในชั้นเรียน ต่างก็พากันทำกิจกรรมสวดมนต์ เพื่อภาวนาให้เพื่อนปลอดภัย และหากวันนี้ทราบว่าเพื่อนออกมาได้แล้ว สิ่งแรกที่ตนจะทำก็คือเข้าไปหาเพื่อน แล้วบอกกับเพื่อนว่าทุกคนเป็นห่วง คิดถึง และรักพวกเขามาก
ขณะที่ อ.สุวรรณ วงษ์ศิลป์ หัวหน้าระดับชั้น ม.3 โรงเรียนแม่สายประสิทธิ์ศาสตร์ เปิดเผยว่า เด็กกลุ่มนี้ เป็นเด็กที่มีวินัยในการฝึกซ้อมฟุตบอลอย่างมาก ช่วงวันหยุดก็จะปั่นจักรยานไปฝึกซ้อมประจำ บางครั้งก็มีรายการแข่งขันด้วย ผู้ปกครองบางรายเล่าให้ตนฟังว่าเด็กบางคนมีแข่งขันปั่นจักรยานด้วย ทั้งที่เรียนอยู่เพียงชั้น ป.6 ตนจึงคาดว่านักเรียนกลุ่มนี้ค่อนข้างมีร่างกายที่แข็งแรง
ทั้งนี้ เด็กในกลุ่มจะมีนิสัยร่าเริง แจ่มใส และค่อนข้างสนิทกัน เป็นทั้งเพื่อนและรุ่นพี่ ส่วนโค้ชที่เข้าไปในถ้ำกับเด็กนั้น ก็ค่อนข้างสนิทสนมกับเด็กกลุ่มนี้พอสมควร อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจของเพื่อนร่วมชั้นเรียน ค่อนข้างที่จะเป็นห่วงเด็กกลุ่มนี้ เมื่อวานนี้โรงเรียนก็จัดกิจกรรมสวดมนต์ เพื่อส่งใจไปช่วยเด็กๆ ให้เต็มที่เท่าที่จะช่วยได้
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก หมอเวร โพสต์ภาพพร้อมข้อความให้ความรู้ เกี่ยวกับการทำงานของร่างกายมนุษย์ เมื่ออยู่ในสถานการณ์ติดภายในถ้ำ สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้นั้น หนึ่งในทีมแอดมินเพจหมอเวร กล่าวผ่าน รายการชื่อดัง ว่า จากกรณีเด็กๆ ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย สภาพร่างกายเด็กตอนนี้ หลังจากที่ต้องติดอยู่ภายในถ้ำหลวงนานกว่า 4 วัน ถ้าร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ การอดอาหาร 4-5 วันในขณะที่ยังมีน้ำให้ดื่มนั้น ถือว่าร่างกายยังคงรับไหวอยู่ และอาจจะอยู่ได้ถึง 2-3 สัปดาห์ โดยขึ้นอยู่กับมวลของร่างกายแต่ละคน จนถึงตอนนี้เชื่อว่าร่างกายเด็กๆ ยังคงกำลังปรับตัวดึงพลังงานสำรองที่สะสมในรูปไขมัน กล้ามเนื้อมาใช้อยู่ ทั้งนี้ หากเจอกลุ่มผู้สูญหาย สิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรกคือการให้อาหารและน้ำดื่ม หากร่างกายอ่อนเพลียจนเกินไป ก็อาจจะต้องให้น้ำเกลือผ่านทางกระแสเลือด หลังจากนั้นจึงจะเคลื่อนย้ายกลุ่มผู้สูญหาย อย่างไรก็ตาม ต้องประเมินจากระยะและความยากลำบากของเส้นทางที่จะนำตัวออกมาด้วย ส่วนกรณีที่มีผู้เคยสำรวจถ้ำให้ข้อมูลว่า เด็กๆ อาจจะอยู่ในจุดห้องโถงกว้าง ซึ่งอยู่ในจุดที่ลึกที่สุดในถ้ำ และหากมีอากาศที่เพียงพอก็เชื่อว่ากลุ่มผู้สูญหายจะสู้สถานการณ์ที่ต้องเจออยู่ในตอนนี้ได้