เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่สนามวอลโกกราด อารีน่า เมืองวอลโกกราด ประเทศรัสเซีย เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายกลุ่มเอช “ซามูไรบลู” ญี่ปุ่น ที่แข่ง 2 นัด ชนะ 1 เสมอ 1 มี 4 คะแนน ลงสนามพบ โปแลนด์ ที่ 2 นัดแพ้รวด ตกรอบแรกแน่นอนแล้ว โดยทั้งสองทีมนี้ยจังไม่เคยพบกันมาก่อนในฟุตบอลโลก

 

 

สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงของญี่ปุ่น อากิระ นิชิโนะ กุนซือ จัดทัพเต็มสูบ ประกอบด้วย เอจิ คาวาชิมะ, ยูโตะ นางาโตโมะ, กาคุ ชิบาซากิ, ชินจิ โอกาซากิ, ทากาชิ อุซามิ, โยชิโนริ มุโตะ, โฮตารุ ยามางุจิ, ฮิโรกิ ซากาอิ, โทโมอากิ มากิโนะ, โกโตคุ ซากาอิ, มายะ โยชิดะ เกมนี้ปรับแผงแนวรุก พัก ยูยะ โอซาโกะ กองหน้าที่ยิงมาต่อเนื่อง รวมทั้ง มาโกโตะ ฮาเซเบะ  และ ชินจิ คากาวะ นั่งเป็นตัวสำรอง

 

 

ส่วน อดัม นาวาลกา กุนซือโปแลนด์ ปรับผู้เล่นกว่าครึ่งทีม โดยส่ง ลูคัส ฟาเบียนสกี, อาร์ตูร์ เยดร์เซชิก, ยาน เบดนาเรก, ยาเช็ก โกรัลสกี, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, เกอร์เซกอร์ซ ครีโคเวียก, คามิล โกรซิชกี, คามิล กลิก, บาร์ตอส เบเรส ซินสกี, ปิโอเทอร์ ซีลินสกี, ราฟาล คูร์ซาวา ทำศึกในเกมนี้ โดยญี่ปุ่น ซึ่งมี 4 แต้มต้องการเพียง 1 คะแนน หรือหากแพ้ต้องลุ้นให้ คู่ระหว่าง โคลัมเบีย และ เซเนกัล มีผลแพ้ชนะ

 

 

เริ่มเกมช่วง 10 นาทีแรก โปแลนด์ ที่ตกรอบไปแล้วเดินหน้ากดดันต่อเนื่อง แต่แนวรุกโปแลนด์ ยังฝืดเหมือนเกมก่อนหน้านี้ และนาทีที่ 13 โยชิโนริ มุโตะ กองหน้าวัย 25 ปีจากไมนซ์ สบโอกาสยิงครั้งแรก ลูคัส ฟาเบียนสกี นายทวารโปแลนด์ล้มตัวเซฟปัดออกหลังไปได้ นาที 33 คามิล โกรซิสกี ลอยตัวขึ้นโหม่งเน้นๆ บอลทำท่าจะข้ามเส้นไปแล้ว แต่ เอจิ คาวาชิมะ ลอยตัวพุ่งควักออกจากเส้น แบบเส้นยาแดงผ่าแปด รอดพ้นการเสียประตู จบครึ่งแรก เสมอกันอยู่ 0-0

 

 

ครึ่งหลัง โปแลนด์ ทำแสบก่อนเมื่อเข้าสู่นาที 59 ราฟาล คูร์ซาวา เปิดฟรีคิกให้ ยาน เบนนาเรก เข้าไปแปจ่อๆให้โปแลนด์ ออกนำ ญี่ปุ่น 1-0 ทำให้ญี่ปุ่นต้องเร่งเกมเพื่อทวงประตูคืน เพราะอาจจะโดนโปแลนด์ ฉุดตกรอบไปด้วย ญี่ปุ่น เดินเกมรุกหนักขึ้นเมื่อเสียประตู และ นาที 66 โทโมอากิ มากิโนะ ไปอัดใส่ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี โดนใบเหลืองไป ทำให้คะแนนแฟร์เพลย์อีก-1  ซึ่งอาจจะต้องไปตัดสินกันถึงตรงนั้น หลังจากนั้นโปแลนด์ ยังไม่เพลาเกมบุกดาหน้าใส่ญี่ปุ่นต่อเนื่อง แต่เจาะเพิ่มไม่ได้ จบเกม โปแลนด์ เอาชนะไป 1-0

 

 

สรุปตารางคะแนน โคลัมเบีย ที่เอาชนะ เซเนกัล 1-0 มี 6 แต้ม ส่วนญี่ปุ่น มี 4 แต้มเท่ากับ เซเนกัล โดยลงเตะ 3 นัด ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 1 ยิงได้ 4 เสีย 4 และการพบกันเฮด ทู เฮด ของทั้งสองทีมจบลงด้วยการเสมอ 2-2 ต้องไปตัดสินกันด้วยคะแนน ฟีฟ่า แฟร์เพลย์ในทัวร์นาเมนต์นี้ ปรากฏว่า ญี่ปุ่น โดนใบเหลืองรวม 4 ใบ ขณะที่ เซเนกัล มี 6 ใบ ทำให้ ญี่ปุ่นคว้าอันดับ 2 ของ กลุ่ม เข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแบบ เฉียดฉิวที่สุด ส่วนโปแลนด์ ยังรั้งบ๊วย มี 3 คะแนน จากการลงเตะ 3 นัด ชนะ 1 แพ้