ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการลำเลียงผู้ป่วยและกู้ชีพทางอากาศ นพ.สุระ เจตน์วาที บอกว่า ภายหลังมีการแถลงข่าวยืนยันนำ 4 ชีวิต ทีมหมูป่าอะคาเดมี ออกจากถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ว่าประเด็นสำคัญประเมินความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ
ซึ่งเบื้องต้นมีสแกนคร่าวๆ สภาพร่างกายของ 13 ชีวิต ทั้งนี้ แม้ว่าไม่มีคนเห็นด้วยในการให้ดำน้ำออกมา โดยให้น้องๆ ที่แข็งแรงออกมาก่อน ส่วนอีก 9 คน มองว่าเป็นเด็กผู้ชาย ซึ่งทางหน่วยซีลคงมีจิตวิทยาในการทำให้ที่เหลือมีความกล้าไม่ตื่นตระหนก เพื่อไม่ให้มีปัญหาการบาดเจ็บจากการดำน้ำ ในการนำออกมาจากจุดหนึ่งมายังอีกจุดหนึ่ง
พร้อมย้ำว่า การพิจารณานำคนแข็งแรงออกมาเป็นสิ่งสำคัญ และมีบางคนเป็นหอบหืด ส่วนกรณี โค้ชเอก ที่อาการเจ็บป่วยระดับสีเหลือง คิดว่า พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ คงจะฟื้นฟูร่างกายได้ในระดับหนึ่งอยู่ภายในถ้ำ
ส่วนระยะเวลาในการฟื้นฟูร่างกาย จากการให้อาหารเพาเวอร์เจล ซึ่งตามหลักต้องมีการปรับร่างกาย แต่ด้วยพื้นที่ในถ้ำมีจำกัด จึงจำเป็นจะต้องนำเด็กออก ส่วนการนำออกมาเร็วเกินคาดการณ์ เชื่อว่ามาจากการซักซ้อม ทำให้การลำเลียงทีมหมูป่าเป็นไปอย่างสมบูรณ์
ขณะที่อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย บอกว่า สภาพอากาศพื้นที่ถ้ำหลวง จากนี้ไปจะมีฝนตกเป็นระยะๆ แม้ว่าไม่อยู่ในเกณฑ์หนัก แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่หุบเขา อาจทำให้น้ำในถ้ำเพิ่ม ซึ่งอันตราย ในช่วง 9-12 กรกฎาคมนี้ จากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ และจะตกบริเวณถ้ำหลวงด้วย เนื่องจากมีสภาพเป็นหุบเขา มีลมแรง ทำให้น้ำฝนไหลลงมาที่ถ้ำ จึงควรนำเด็กที่เหลือออกมาให้เร็วที่สุด