เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ล่าสุดวันที่ 30 ก.ค. “นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยหลังพา “นายสุบิน ยาวิราช” อายุ 41 ปี พ่อ “น้องหญิง” “น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช” อายุ 19 ปี ที่เสียชีวิตเข้าร้องตำรวจกองปราบปรามให้ช่วยคดีคลายคดี หลังครอบครัวไม่เชื่อว่า “น้องหญิง” จะโดดลงจากรถจนกะโหลกร้าว อีกทั้งผลชันสูตรศพของแพทย์ระบุ “น้องหญิง” เสียชีวิตจากการถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอย ซึ่งไม่ตรงกับคำให้การของนายอ๊อฟ ที่ขับรถพาไปส่งให้การกับตำรวจไว้หลังเกิดเหตุที่สภ.บางปะอิน

“นายอัจฉริยะ” เปิดเผยว่า ขั้นตอนทางคดีอยู่ระหว่างการสอบปากคำ และตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่พ่อน้องหญิงนำมามอบให้ รวมถึงพยานบุคคลที่พามาเข้าพบตำรวจ 2 คน คือ น.ส.เจน และน.ส.รุ้ง (นามสมมุติ) ซึ่ง 1 ใน 2 คนนี้ถือเป็นพยานปากสำคัญ เนื่องจากน.ส.รุ้ง มีความสนิทสนมกับน้องหญิง จะรู้เรื่องราวรายละเอียดทั้งหมดค่อนข้างดี ส่วน น.ส.เจน ก็ถือเป็นพยานบุคคลที่สำคัญอีกคนเช่นเดียวกัน และขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามหาตัวพยานบุคคลสำคัญอีก 2 คนที่เคยถูกทั้ง 3 คนนี้กระทำในลักษณะนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติม หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะมีการดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์เพิ่มเติมด้วย ครอบครัวผู้เสียชีวิตรู้สึกดีใจและมีความหวังมากขึ้น เชื่อกองปราบน่าจะให้ความเป็นธรรมแก่น้องหญิงได้

“ผมเชื่อว่าอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นท่อแปปเหล็กที่ตรวจพบจากภายในรถมากกว่า แต่ขณะนี้ยังขาดพยานหลักฐานสำคัญอีก 1 ชิ้น คือกางเกงชั้นในน้องหญิงที่หายไป หลักฐานชิ้นนี้จะพิสูจน์ข้อเท็จจริงคดีได้หลายอย่าง ส่วนกางเกงขาสั้นที่สวมใส่นั้นทราบว่า สภ.บางปะอิน ไม่ได้ทำการส่งตรวจตั้งแต่ช่วงเกิดเรื่องแรกๆ ผมก็ไม่ทราบเหตุผลเหมือนกันว่าเพราะเหตุใดถึงไม่ยอมดำเนินการ”

ส่วนนายสุบิน กล่าวว่า สำหรับศพของน้องหญิงนั้น จะทำพิธีฌาปนกิจศพได้ก็ต่อเมื่อตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ครบทุกคน ตนยืนยันว่าตัวน้องหญิงไม่มีสารเสพติดในร่างกายหรือเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด