วันที่ 31 ก.ค. เอเอฟพีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยร้ายแรงทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ในประเทศพม่า ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบเพิ่มเป็น 120,000 รายแล้ว และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย โดยทางการพม่าคาดว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีกโดยเฉพาะในรัฐกะเหรี่ยง ท่ามกลางชาวบ้านที่พยายามอพยพหนีน้ำขึ้นสู่ที่สูงกันอย่างโกลาหล
ขณะที่จำนวนค่ายพักพิงของทางการพม่านั้นเพิ่มเป็น 285 แห่งแล้ว เนื่องมาจากอิทธิพลของพายุมรสุมที่ทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องจนระดับน้ำบางแห่งท่วมมิดหลังคาบ้านชั้นเดียว นายพยู เล เล ตูน รองอธิบดีกระทรวงสวัสดิการรัฐของพม่า กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก โดยขณะนี้ทางการยังอยู่ในช่วงรวบรวมข้อมูล ส่วนสถานการณ์ระดับน้ำนั้นแม้จะมีระดับน้ำเริ่มลดลงในพื้นที่ 4 จังหวัด แต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์อุทกภัยจะกินระยะเวลานานเท่าใด ด้านรายละเอียดของผู้เสียชีวิต 5 รายล่าสุดนั้นพบว่าถูกดินถล่มฝังที่ตำบลเกาะสอง เขตตะนาวศรี
โกลบอล นิว ไลท์ สื่อท้องถิ่นในพม่า รายงานว่า ทางการพม่ายังคงมีประกาศสั่งให้ประชาชนอพยพในหลายพื้นที่ เนื่องจากแม่น้ำลำคลองในภาคใต้ของพม่านั้นอยู่ในภาวะเสี่ยงล้นตลิ่ง และปริมาณน้ำทั้งหมดในเขื่อน 36 แห่งทั่วประเทศเกินกำลังที่จะรองรับน้ำ ทำให้ต้องเร่งปล่อยน้ำฉุกเฉินอย่างเต็มกำลัง
