เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ตั้งแต่เมื่อเช้าวันที่ 1 ส.ค.61 ที่ สภ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว ได้ตรวจพบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน บท-3631 ภูเก็ต ซึ่งเป็นรถของนายปัญญา ยิ่งดี หรือเสี่ยอ้วนภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดชลบุรีที่ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เสียชีวิตบริเวณลานจอดรถหน้าพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ม.6 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.61 ที่ผ่านมา จอดอยู่บริเวณข้างถนนสาย 359 เขาหินซ้อน-สระแก้ว บริเวณหมู่บ้านบ้านทับ อ.เมือง จ.สระแก้ว แต่ไม่มีผู้ใดอยู่ในรถ ทำให้ จนท.ได้ทราบเบาะแสว่านายปัญญา ยิ่งดี หรือเสี่ยอ้วนภูเก็ต ได้หลบหนีมาทาง จ.สระแก้ว

ดังนั้น พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว เกรงว่าผู้ต้องหาที่มีหมายจับ คือ นายปัญญา ยิ่งดี หรือเสี่ยอ้วนภูเก็ต จะหลบหนีออกไปประเทศกัมพูชาทางชายแดน จ.สระแก้ว จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.เสกสรร วัฒนพงษ์ ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ประสานความร่วมมือกับ พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว และ พ.อ.นิโรธ ทองม่วง ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 (ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12) ระดมกำลังร่วมกันออกลาดตระเวนสกัดกั้นตลอดแนวชายแดน พร้อมทั้งร่วมกันตั้งด่านตรวจค้น บริเวณจุดตรวจบุคคลประจำยานพาหนะ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยร่วมกันตรวจยานพาหนะทุกคันที่ขับออกจากประเทศไทยไปฝั่งกัมพูชา แม้รถบรรทุกสินค้า จนท.ก็ขึ้นไปตรวจค้นเนื่องจากเกรงว่าคนร้ายอาจลักลอบหลบขึ้นรถบรรทุกหนีออกไปฝั่งกัมพูชา โดยได้มีการนำภาพถ่ายหมายจับของเสี่ยอ้วน และนายจิรศักดิ์ อุนัยบัน ให้ จนท.ถือเปรียบเทียบหน้าตากับบุคคลที่มากับยานพาหนะทุกคัน

นอกจากนี้ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.บัณฑิต พรหมพล สว.ตม.จว.สระแก้ว ประสานความร่วมมือไปยัง จนท.ตำรวจกัมพูชา และ ตชด.กัมพูชา ที่ดูแลรักษาความมั่นคงบริเวณแนวชายแดน ตรงข้ามกับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ให้ช่วยปิดช่องทางธรรมชาติเพื่อป้องกันผู้ต้องหาหนีออกไปฝั่งกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ ซึ่งทางกัมพูชายินดีให้ความร่วมมือกับไทยอย่างเต็มที่ด้วยการปิดตายช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดนฝั่งกัมพูชาด้วย

ส่วน พ.อ.นิโรธ ทองม่วง ผบ.ชค.กรม.ทพ.12 ได้สั่งการให้กองร้อยทหารพรานหน้าแนวชายแดนทุกกองร้อยปิดตายช่องทางธรรมชาติ พร้อมทั้งร่วมกันตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตามเส้นทางตามแนวตะเข็บชายแดน เพื่อป้องกันและสกัดจับผู้ต้องหาตามหมายจับ จะลักลอบหนีออกไปฝั่งกัมพูชาตามช่องทางธรรมชาติ โดยจากการตรวจเข้มยังไม่พบผู้ต้องหาตามหมายจับทั้ง 2 คนเข้ามาในพื้นที่แนวชายแดนอรัญประเทศ.