เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 5 ส.ค. 61 นายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 3 ส.ค. 61 ที่ผ่านมาว่ามีการไปพบรอยร้าวขนาดใหญ่จำนวนมากบนสันฝายเก็บน้ำบ้านซับไทรทอง หมู่ 8 ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นฝายขนาดใหญ่ เก็บกักน้ำไว้เป็นจำนวนมากหลายสิบล้านลูกบาศก์เมตร ที่จะรับน้ำไหลผ่านจากเทือกเขาพญาฝ่อ และรอยต่อเทือกเขาพังเหย ก่อนที่จะไหลเชื่อมลงมาที่ลำเชียงทา ในเขต อ.ภักดีชุมพล อ.เทพสถิต และ อ.หนองบัวระเหว ก่อนจะไหลลงเชื่อมต่อสู่ลำน้ำชีผ่านไปอีกหลายอำเภอของ จ.ชัยภูมิ

ซึ่งฝายดังกล่าว มีความกว้างกว่า 6 ม. ยาวกว่า 35 ม. ได้เกิดมีรอยร้าวลึกภายในจำนวนมากหลายจุด มีความยาวความลึกเข้าไปหลายเมตร และเสี่ยงที่จะแตกเสียหายลงทั้งหมดได้ เพราะในสภาพแตกร้าวของสันฝายจำนวนมากในขณะนี้ เสี่ยงมากที่จะไม่สามารถรับน้ำฝนในขณะนี้ต่อไปอีกได้ และถ้าหากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องอีกจึงเสี่ยงที่จะเกิดฝายจุดนี้แตกลงได้

ด้านนายแป้ แนวสุภาพ อายุ 59 ปี ชาวบ้านเลขที่ 48 บ้านซับไทรทอง หมู่ 8 ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ เผยว่าตนเองได้ปลูกอ้อย 20 ไร่ โดยมีที่ดินอยู่ต้นน้ำหากฝายดังกล่าวแตกคงได้รับความเสียเต็มๆทั้งหมดและยังมีเพื่อนบ้านที่ทำการเกษตรอีกกว่า 50 ครอบครัว ที่ทำไร่ใกล้บริเวณดังกล่าวที่จะได้รับผลกระทบรุนแรงหากเกิดเหตุฝายแตกขึ้นมาอยากวอนผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาโดยด่วนด้วย ซึ่งหากภายใน 1-2 วันนี้ ฝนตกหนักก็อาจทำให้มวลน้ำจากเทือกเขาทั้ง 2 แห่งไหลลงมาเพิ่มสู่ฝายจำนวนมาก ก็อาจทำให้ฝายต้านแรงน้ำไม่อยู่ คงเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นอย่างแน่นอน ตนและเพื่อนบ้านต่างหวาดกลัว

ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผวจ.ชัยภูมิ จึงได้ลงพื้นที่พร้อมนายอำเภอภักดีชุมพล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยกันสำรวจความเสียหาย และช่วยนำเครื่องจักร รถแบคโฮ เร่งขุดลอกเปิดทางน้ำจุดใหม่เพิ่ม เพื่อช่วยระบายน้ำออกข้างสันฝายแทน เพื่อลดแรงปะทะน้ำที่จะไม่ให้แรงน้ำไปกระทบกับสันฝายที่ร้าวเสียหายอยู่ขณะนี้โดยตรง

พร้อมสั่งจัดชุดทางจังหวัดและอำเภอ ผู้นำชุมชนทุกพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังเข้มตลอด 24 ชม.จากนี้ไป เพราะยังมีฝนตกลงมาในพื้นที่บนรอยต่อเทือกเขาทั้ง 2 แห่ง ยังไม่หยุดอีกเป็นจำนวนมาก คาดว่ายังจะมีปริมาณน้ำฝนสะสมไหลลงมาอีกต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก และเสี่ยงที่จะทำให้สันฝายจุดนี้รับน้ำต่อไปไม่ได้ จนเกิดแตก น้ำทะลักลงมาสร้างความเสียหายกระทบชาวบ้านในจุดนี้อีกนับร้อยครอบครัว กินพื้นที่วงกว้างไม่น้อยกว่า 1,000 ไร่ จึงต้องฝากแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้คอยติดตามสถานการณ์การแจ้งเตือนจากทางอำเภออย่างใกล้ชิดด้วย และเตรียมความพร้อมอพยพออกจากพื้นที่ และขนสิ่งของมีค่าออกไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัยไว้ก่อน

ซึ่งหากระหว่างเกิดฝายแตก ถ้ามีเกษตรกรที่อาจจะยังไม่ทราบข่าว และอาจจะออกไปทำไร่ ทำการเกษตรในพื้นที่ใต้ฝาย ซึ่งอาจจะเสี่ยงถ้าฝายรับน้ำอีกไม่ไหว เกิดแตกลงมาจะถูกน้ำป่าทะลักดินโคลนถล่มลงมาอาจเกิดโศกนาฎกรรมได้ จึงขอให้ช่วยกันใช้ความระมัดระวังด้วย