วันที่ 6 ส.ค. ที่สภ.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายประมวล ทองสอน อายุ 49 ปี พร้อมญาติๆ ได้เข้าติดตามคืบหน้าคดีที่ ด.ช.ณัฐวุฒิ ทองสอน อายุ 13 ปี หรือน้องโก้ ลูกชาย นักเรียนชั้นม.1 โรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์พิทยา ในต.ฉลุง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งถูกเพื่อนชายห้องเดียวกันชกต่อยทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังนอนอยู่ในห้องไอซียูโรงพยาบาลหาดใหญ่ และแพทย์ระบุว่าอาการห้าสิบห้าสิบเป็นตายเท่ากัน เลือดคั่งในสมองต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา และต้องให้ยากระตุ้นหัวใจ ซึ่งในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้นัดผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมาสอบสวน
นายประมวล เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย 2 ครึ่งของวันที่ 3 ที่ผ่านมาลูกชายมีเรื่องกับเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งและถูกชกต่อยจนสลบและนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ อาการสาหัส จนถึงขณะนี้ยังไม่รู้สึกตัว ซึ่งเมื่อเห็นสภาพลูกชายตนรับไม่ได้จึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจในวันเกิดเหตุทันทีเพื่อให้ดำเนินการทางคดีกับคู่กรณีซึ่งทราบว่าเป็นนักมวยด้วย รวมทั้งให้ทางโรงเรียนออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงและรับผิดชอบกับเรื่องนี้ เพราะลูกชายของตนอาการสาหัส
ด้าน น.ส.สุภาพร ทองสอน อายุ 22 ปี พี่สาวของน้องโก้ เปิดเผยว่า ครอบครัวรับไม่ได้กับสภาพของน้องโก้ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสแต่ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงต้องการเรียกร้องให้ทางตำรวจเร่งดำเนินคดีรวมทั้งให้ทางโรงเรียนแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้
ต่อมา ได้มี ด.ช.โบ้ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี คู่กรณีที่มีเรื่องชกต่อยกับน้องโก้ เดินทางมาที่ สภ.ทุ่งตำเสา เพื่อพบกับพนักงานสอบสวน และเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนถูก ด.ช.โก้ ถ่มน้ำลายใส่ก่อนจึงได้เตะที่ก้นและชกไปที่หน้า 1 ครั้งจนด.ช.โก้ ล้มลงกับพื้น จากนั้นเพื่อนจึงช่วยนำไปห้องพยาบาลจนมาทราบในภายหลังว่าอาการหนักอยู่ในห้องไอซียู ซึ่งตนก็เสียใจเพราะไม่คิดว่าอาการจะรุนแรงขนาดนี้ เพราะต่อยไปที่หน้าแค่ครั้งเดียวเท่านั้น
ด.ช.โบ้ บอกด้วยว่า ยอมรับว่าตนกับเพื่อนคนนี้ไม่ค่อยถูกกัน เพราะตนเพิ่งย้ายเข้ามาเรียนใหม่ และเพื่อนเคยพูดว่าเพิ่งย้ายมาใหม่อย่ามาทำใหญ่ กระทั่งในวันเกิดเหตุเพิ่งสอบเสร็จจึงมีเรื่องกัน ส่วนเรื่องที่เป็นนักมวย ก็ยอมรับว่าเคยชกมวยมาก่อน
ต่อมา นายเอกพล ดำรงจิรธนากร ผู้อำนวยการโรงเรียนหาดใหญ่เจริญราษฎร์วิทยา ได้นำนักเรียนและรองผู้อำนวยการโรงเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์มาให้การกับตำรวจ พร้อมเปิดเผยว่า เรื่องนี้ทางโรงเรียนจะดำเนินการอย่างเป็นกลางเพราะทั้งสองฝ่ายเป็นลูกศิษย์ ซึ่งได้รายงานให้ทางผู้อำนวยการเขตการศึกษาทราบเรื่องแล้ว และเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของโรงเรียนหรือความผิดของครู เนื่องจากมาจากเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาทกัน แม้ครูจะอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุแต่กรณีที่นักเรียนชกต่อยกันครูไม่สามารถเข้าไปห้ามได้ทัน เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นหลังที่สอบปลายภาคเสร็จจึงปล่อยให้นักเรียนไปทำกิจกรรมทำความโรงเรียน โดยมีครูคอยดูแลอยู่ห่างๆ
“ที่สำคัญได้ช่วยเหลือนักเรียนที่บาดเจ็บอย่างดีที่สุด นำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ล่าช้าตามที่ผู้ปกครองตั้งข้อสังเกต ส่วนการเยียวยา ถ้ามาจากเรื่องอุบัติเหตุก็มีประกันอุบัติเหตุอยู่แล้ว แต่ถ้ามาจากเรื่องทะเลาะวิวาทก็อยู่นอกเหนือหลักเกณฑ์ แต่ทางโรงเรียนจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งส่งครูไปดูแลพูดคุยกับพ่อมาตลอดไม่ได้ทอดทิ้ง และเรื่องนี้เป็นคดีความแล้ว ก็ต้องว่ากันไปตามคดี”
ด้านเพื่อนร่วมห้องของน้องโก้ที่บาดเจ็บและน้องโบ้ที่เป็นคนต่อย เปิดเผยว่า จริงๆแล้วทั้งคู่เป็นเพื่อนกันและอยู่ในกลุ่มเดียวกัน กินข้าวด้วยกันตลอด แต่ในวันเกิดเหตุไม่ทราบว่ามีเรื่องทะเลาะ หรือขัดใจอะไรกัน ทีแรกด.ช.โก้ ได้ถ่มน้ำลายใส่ด.ช.โบ้ แต่ไม่โดนจึงได้ถ่มน้ำลายใส่อีกครั้งจนโดนตัว ทำให้ ด.ช.โบ้ ลุกมาเตะเข้าที่ก้น1 ครั้ง แล้วต่อยเข้าที่กราม 1 ครั้ง จนล้มลงและหมดสติ แต่ไม่ได้เข้าไปต่อยซ้ำหรือตะลุมบอนกันแต่อย่างใด เป็นการมีเรื่องกันทั้งสองคนเท่านั้น
ขณะที่ พ.ต.ท.บัญญัต วงษ์สุวรรณ รองผกก.สอบสวน สภ.ทุ่งตำเสา เผยว่า เบื้องต้นได้รับแจ้งความเท่านั้น ยังไม่ได้ตั้งข้อหากับคู่กรณีแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอผลการสอบพยานแวดล้อมทั้ง 2 ฝ่าย รวมทั้งผลตรวจจากแพทย์โรงพยาบาลหาดใหญ่อีกครั้ง ถึงสาเหตุของอาการบาดเจ็บว่ามาจากสาเหตุใด ส่วนการสอบปากคำเด็ก ต้องทำต่อหน้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะยังเป็นเยาวชน