เมื่อวันที่ 7 ส.ค. เอพี รายงานความคืบหน้าสถานการณ์ไฟป่าลุกลามรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ว่าไฟป่าทั้ง 2 จุด ที่เกิดขึ้นพร้อมกันทางภาคเหนือของรัฐ หรือที่เรียกว่า “เมนโดซิโน คอมเพล็กซ์ ไฟร์” ทุบสถิติกินพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของแคลิฟอร์เนีย หรือกว่า 1,148 ตารางกิโลเมตร ใหญ่เกือบเท่านครลอสแองเจลิส เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้เพียงร้อยละ 30 เท่านั้น
สำนักงานดับเพลิงแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย หรือแคลไฟร์ ระบุว่า ความกดอากาศใหม่ที่กำลังมาจะทำให้อากาศอุ่นมากขึ้น แห้ง และมีลมแรง เจ้าหน้าที่จะพยายามอาศัยอุณหภูมิที่ลดลงต่ำในช่วงกลางคืนเพื่อตรึงแนวไว้ไม่ให้ไฟลุกลามมากขึ้นไปอีก สถานการณ์ลุกลามของไฟป่าครั้งนี้ทำลายสถิติเดิมเมื่อเดือนธันวาคม 2560 ในบริเวณภาคใต้ของแคลิฟอร์เนีย ครั้งนั้นเรียกว่า “โธมัส ไฟร์” กินพื้นที่ 1,140 ตารางกิโลเมตร ทำลายบ้านเรือนมากกว่า 1,000 หลัง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย กว่าจะควบคุมเพลิงได้วันที่ 12 ม.ค.2561
ส่วนครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 11 ราย และเสี่ยงที่ไฟจะลามเผาอาคาร 11,300 หลัง จึงมีประกาศอพยพครั้งใหม่อีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่พนักงานดับเพลิงมากกว่า 14,000 นายยังคงปฏิบัติหน้าที่อันยากลำบากนี้ สกอต แม็กลีน โฆษกสำนักงานป้องกันไฟและป่า กล่าวว่า จำได้ว่าเมื่อสองปีก่อนเห็นจำนวนนักดับเพลิง 10,000-12,000 นายในสามรัฐ คือแคลิฟอร์เนีย โอเรกอน และวอชิงตัน ไม่เคยต้องมีมากถึง 14,000 นาย จนกระทั่งถึงครั้งนี้ สำหรับสาเหตุของไฟป่าจุดนี้ที่ลุกลามมาตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. มาจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรในรถยนต์คันหนึ่งก่อให้เกิดเพลิงไหม้ มีอาคารเสียหายกว่า 1,600 หลัง ในจำนวนนี้ เป็นบ้านที่อยู่อาศัยกว่า 1,000 หลัง