เจอแบบนี้เข้าไปก็คงมีอึ้ง เมื่อเว็บไซต์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานกรณีที่เป็นที่น่าจับตาจากเหตุการณ์ที่หญิงชาวจีนรายหนึ่ง ซึ่งระบุเพียงว่า แซ่หนี่ ออกมากล่าวอ้างร้องทุกข์ว่าเธอพบแผ่นผ้าอนามัยอยู่ในหม้อชาบูที่เธอสั่งมารับประทานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเมื่อคืนวันเสาร์(29 ก.ย.) ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่หญิงชาวจีนรายนี้อ้างว่าเจอผ้าอนามัยในหม้อชาบู โดยหนึ่งวันก่อนหน้านั้นหญิงชาวจีนรายนี้ได้เรียกร้องค่าเสียหายจากร้านชาบูชื่อ ไห่ตี้เหลา ในเมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นร้านที่มีสาขาหลายแห่งในจีน เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านหยวน หรือราว 4.65 ล้านบาท โดยเธออ้างว่าพบแผ่นผ้าอนามัยอยู่ในหม้อลวกของเธอในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์(28 ก.ย.)ที่ผ่านมา
ข่าวระบุว่า ในวันเกิดเหตุดังกล่าว ผู้จัดการร้านชาบูไห่ตี้เหลาได้ชี้แจงกับหญิงแซ่หนี่รายนี้ว่าแผ่นกระดาษที่พบน่าจะเป็นกระดาษจากการห่อเนื้อสัตว์ของทางร้าน แต่หญิงแซ่หนี่ปฏิเสธคำชี้แจงดังกล่าว และได้ถ่ายรูปลงโพสต์บนโลกโซเชียล พร้อมข้อความว่า “คุณดูได้เลยมันคือแผ่นผ้าอนามัย” และหญิงแซ่หนี่ได้เรียกร้องค่าเสียหายจากทางร้าน และในวันถัดมาหญิงแซ่หนี่ได้กลับมาที่ร้านชาบูแห่งนี้พร้อมกับเพื่อนและโวยวายถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้พนักงานของร้านไห่ตี้เหล่าโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาที่ร้าน
เมื่อตำรวจมาถึงและตรวจดูที่เกิด จึงได้บอกให้หญิงชาวจีนรายนี้ควรจ่ายค่าเสียหายให้แก่ทางร้าน เนื่องจากเธอได้ทำลายทรัพย์สินของทางร้านเสียหาย และตำรวจยังนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปตรวจดูด้วยเพื่อการสอบสวนในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปด้วย
หลังจากเรื่องนี้ถูกแพร่ไปในโซเชียลมีเดียของจีน ทางร้านไห่ตี้เหลาได้ตกลงที่จะจ่ายเงินคืนให้แก่หญิงแซ่หนี่รายนี้เป็นเงิน 800 หยวน และเพื่อยุติเรื่องที่เกิดขึ้น กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้กับร้านอาหารแห่งที่ 2 ที่เจ้าของร้านได้เรียกตำรวจมาที่ร้าน โดยบอกว่าเป็นหญิงแซ่หนี่คนนี้เรียกร้องค่าเสียหาย ด้วยการอ้างว่าพบแผ่นผ้าอนามัยในเนื้อที่เธอสั่งมา
ขณะที่เจ้าตัวให้สัมภาษณ์กับสื่อสำนักหนึ่งยืนยันว่าเธอไม่ได้ต้องการค่าเสียหาย เพียงแต่ต้องการเปิดเผยให้เห็นถึงสภาพความไม่ถูกสุขลักษณะของร้านอาหารเท่านั้น