เมื่อวันที่ 2 ต.ค.61 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสอบระบบระบายน้ำย่านถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อแก้ปัญหาระบบระบายน้ำ ที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีแดง จนทำให้ประชาชนประสบปัญหาน้ำท่วมขังผิวการจราจร โดยยืนยันว่า มีการบูรณาการหารือร่วมกับทุกภาคส่วนอยู่ ทั้งกรุงเทพมหานคร สำนักระบายน้ำ กรมทางหลวง และการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่ามีจุดที่กีดขวางทางระบายน้ำบริเวณคูน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต รวม 16 จุด แบ่งเป็นเขตจตุจักร 5 จุด ดอนเมือง 5 จุด และเขตหลักสี่ 6 จุด ซึ่งบริษัทผู้รับเหมา ได้ดำเนินการแก้ไขเสร็จแล้ว 10 จุด ส่วนอีก 6 จุดที่เหลือในพื้นที่เขตหลักสี่ จะประสานไปยังกองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อให้ปิดการจราจรระหว่างการขุดวางท่อระบายน้ำ 2 ท่อระบาย ที่จะลอดผ่านถนนวิภาวดีรังสิต จำนวน 3 จุด หรือ 3 สถานีรถไฟฟ้า ก่อนจะถมกลับให้เป็นถนนที่ประชาชนสามารถสัญจรได้เช่นเดิม
พร้อมกันนี้ ยังจะทำการขุดลอกคูคลองที่มีโคลนตมจำนวนมากออก เพื่อให้การระบายน้ำสามารถระบายได้ดีมากขึ้น โดยคาดว่าจะใช้เวลาในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นประมาณ 1 ปีเศษ หรือประมาณกลางปีหน้าน่าจะแล้วเสร็จ
พล.ต.อ.อัศวิน เผยต่อว่า ในส่วนคืนวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่มีน้ำท่วมขังย่านวงเวียนบางเขนนั้น สืบเนื่องมาจากผู้รับเหมายังไม่ได้ส่งมอบงานให้ กทม. และนำกุญแจเปิดปิดระบบเครื่องสูบน้ำไปด้วย ทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้า เพราะไม่มีกุญแจ จึงทำให้มีน้ำท่วมขังจนประชาชนได้รับความเดือดร้อน ซึ่งเบื้องต้นได้มีการสั่งการให้จัดหากุญสำรองไว้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะนี้อีก รวมถึงได้สั่งการให้ดำเนินการปรับพื้นผิวการจราจรย่านชินเขต ที่มีปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซาก โดยสั่งให้สำนักงานโยธา สำนักระบายน้ำ ปรับพื้นผิวการจราจรให้สูงขึ้นอีกประมาณ 1 เมตร 50 เซนติเมตร และปรับทางเท้าด้วย เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวกไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมขังได้อีกในอนาคต
