ตำรวจเมืองคอนบุกรวบ“ไอ้ทิศ นาเหรง”ทุบหัวครูเกษียณคุณป้านายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแห่ง ประเทศไทย-เป็นคนเดียวกันที่ย่องยกเซฟวัดเสมาเมืองพร้อมหลักฐานที่ชิงไปจากคุณครูผู้เสียหาย-เผยหมอช่วยผ่าตัดเยื้อชีวิตครูเต็มที่แต่อาการทรุดหนักนาเป็นห่วง
กรณี นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ร้องเรียนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อฯนครศรีธรรมราช ขอให้ติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกทุบหัวชิงทรัพย์ นางบุญนำ แก้วเขียว อายุ 80 ปี ผู้เป็นป้าจนเจ็บสาหัส กระทั่งตำรวจสามารถจับกุม นายอาทิตย์ หรือทิศ แก้วมี เจ้าของฉายา “ทิศ หน้าถ้ำ” อายุ 32 ปี ได้แล้ว โดยมือทุบเป็นคนที่เช่าอยู่หลังบ้านคนเจ็บด้วย
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช สั่งให้ พ.ต.ท.วันชัย สุวรรณรัตน์ สว.สส.ฯ เบิกตัว นายทิศ ไปตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วง เจ้าตัวก็รับสารภาพว่าเสพยาจริงและก่อเหตุทุบหัวชิงทรัพย์เพื่อไปซื้อยามาเสพ จากนั้นได้คุมตัวไปทำแผนบริเวณข้างแฟลตที่พักเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง(แฟลตราชสีห์) ซอยพระอุมา ถนนตรงวัดเสมาเมือง ต.ในเมือง โดยมีญาติๆ คนเจ็บพากันมุงแล้วรุมสาปแช่งให้ตกนรกหมกไหม้ เพราะคนเจ็บเป็นผู้ชราที่ใจบุญสุนทานมากด้วย
นายทิศ ให้การรับว่า มีอาการเสี้ยนยา แต่ไม่มีเงิน จึงปรี่เข้าไปใช้ไม้ทุบหัวชิงทรัพย์จากผู้บาดเจ็บ พอคนเจ็บแน่นิ่งหัวโชกเลือดล้มลงไปก็รีบขโมยแทปเล็ตกับสร้อยคอทองคำพร้อมพระเครื่องไปซื้อยาเสพติดทันที แต่สาบานเลยว่าที่จริงไม่ต้องการทำรุนแรงถึงขนาดนั้น แต่เป็นเพราะเหยื่อขัดขืนและต่อสู้ขัดขวางจึงเกิดความโมโหใช้ไม้ตีไม่ยั้ง หากยอมแต่โดยดีก็จะไม่ทำร้ายใดๆทั้งสิ้น
ขณะที่อาการของนางบุญนำพบว่าใบหน้าของนางบุญนำบวมช้ำอย่างรุนแรงเหมือนถูกของแข็งกระแทกหลายครั้ง เลือดออกทางปากและจมูก ซึ่งล่าสุดนั้นอาหารยังคงวิกฤติไม่รู้สึกตัวแพทย์พบว่ามีเลือดคั่งในสมอง และสมองบอบช้ำอย่างหนัก
สำหรับนายอาทิตย์ผู้ต้องหาโหดรายนี้เคยต้องคดีมาแล้ว ในทางสอบสวนพบว่าตั้งใจมาเช่าบ้านอยู่ในชุมชนที่มีผู้เฒ่าผู้แก่อยู่ตามลำพังช่วงกลางวัน แล้วออกสังเกตการณ์ว่าบ้านหลังไหนมีคนแก่อยู่คนเดียวจึงเข้าก่อเหตุชิงทรัพย์ ทำร้ายเจ้าทรัพย์ถึงขั้นสาหัสเพื่อไม่ให้เหยื่อให้การถึงตัว
