วันที่ 27 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (26 ธ.ค.) นายสมาน วงษ์กัณหา รถขับรถไถ ที่ตกเป็น “ผู้ต้องสงสัย” และเป็น “จำเลยของสังคม” ในคดี “เด็ก 2 ขวบ” หายตัวไปแล้วเสียชีวิตในป่าไร่อ้อยในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ได้ไปกล่าวเปิดใจออกรายการทีวี ว่าหลังพบศพเด็กก็ไม่ได้เครียด รู้สึกสบายใจขึ้น ทุกอย่างจะได้คลี่คลาย โดยที่ผ่านมาก็ถูกตำรวจสอบสวน และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอจากตน รวมทั้งรถไถไปตรวจสอบ ซึ่งวันที่ 17 ธ.ค.วันที่เด็กหาย ตนออกจากบ้านไปเตรียมดินที่แปลงข้างๆ ถามว่าเห็นเด็กหรือไม่ ก็เห็นว่าตรงนั้นมีเด็กแต่มองผ่านๆ จึงไม่ได้ยืนยันว่าเป็นเด็กคนที่เสียชีวิตหรือไม่ ตอนนั้นเด็กยืนอยู่ตรงร่องไร่อ้อย ไม่ได้ยืนอยู่บนถนน ตนใช้เวลาปรับหน้าดิน 1 ชั่วโมง เป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะเดินฝ่าดงอ้อยเข้ามาหารถไถ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยรู้จักหรือมีปัญหากับพ่อแม่เด็กแต่อย่างใด
นายสมาน กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุ ต้องจอดรถอยู่กับที่ ขยับไปไหนไม่ได้ เดี๋ยวมีคนสงสัยอีก อยากถามว่าถ้าทับเด็กจริงต้องมีรอยหรือกลิ่นคาวเลือด วันแรกก็ไปช่วยหาเด็กด้วยความสงสารเพราะมีลูกเหมือนกัน ไปช่วยหาทุกวันแต่พ่อแม่เด็กคงไม่รู้ ถ้าโดนรถทับจริง ร่างเด็กต้องเละ มีรอยโดนตัดขาด กระดูกต้องป่น เนื่องจากรถไถน้ำหนักหลายตัน วันนั้นที่มีคนอ้างว่าเห็นชายเดินไปจับมือเด็ก ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการแตะตัวเด็กแต่อย่างใด ส่วนช่วงที่เด็กหายไปแล้วตนหายไปไหน ตนอยู่บ้านตามปกติ ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ตลกมากที่มีคนบอกว่าตนหนี ทั้งที่ยังทำงานตามปกติ รถไถก็จอดอยู่
“ดูที่ชันสูตรหลักฐาน ผมให้ดีเอ็นเอไปแล้ว เอาทุกอย่างให้ตำรวจตรวจหมด ถ้าอุ้มเด็กไปทิ้งต้องมีอะไรติดตัว หากชนจริงต้องมีกองเลือด วันนั้นก็เดินหาเด็กกันทำไมถึงไม่มีกลิ่นคาวเลือด ถ้าชนจากด้านหลังยังไงก็ตายแน่ๆ ที่ตั้งข้อสงสัยว่าชนเด็กแต่ไม่มีรอย เป็นไปไม่ได้เลย ผลชันสูตรออกมาบอกว่าเด็กตาย 5-7 วัน ถ้าผมทำตายตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค. มันต้องเป็น 9 วัน ใช่หรือไม่ สิ่งที่อยากฝากคือผมยินดีให้ตรวจทุกอย่าง แต่ผมก็มีภาระหน้าที่ ทั้งแม่ ภรรยาและลูก ต่างรอผมทำงานอยู่ ที่ผ่านมาพ่อแม่เด็กได้รับสิทธิให้ตำรวจทำคดีให้ คนไทยหลายคนช่วยกันตามหา แต่มาสงสัยว่าผมทำ ในกรณีนี้ถ้าพิสูจน์แล้วผมบริสุทธิ์ ผมฟ้องได้หรือไม่ จากวันแรกที่สงสาร วันนี้ไม่สงสารแล้ว มาคิดกับผมแบบนี้ได้ยังไง ตั้งแต่วันแรกผมทิ้งงานไปช่วยตามหา ผมก็มีลูกเล็กแค่ 4 ขวบ ในเมื่อผลชันสูตรออกมาแล้วก็ยังปักใจเชื่อแบบนั้นอีก” นายสมาน กล่าว