“สุชาติ” รมว.แรงงาน สั่งปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเข้าครม.กันยายนนี้ แต่ได้ไม่เท่ากันทุกจังหวัด วอนอย่ามองเป็นการเมือง
วันที่ 9 ส.ค. 65 ณ ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ความคืบหน้าในเรื่องของการปรับค่าแรงขั้นต่ำนั้น ตนมอบนโยบายให้ปลัดกระทรวงแรงงานไปประชุมไตรภาคีจังหวัด ซึ่งร่วมประชุมกับทุกจังหวัดแล้ว ขณะนี้ได้ข้อมูลตัวเลขมาทั้งหมดแล้ว และจะเกลี่ยตัวเปอร์เซ็นต์ให้เกิดความเหมาะสมตามข้อเท็จจริงตัวเลขแต่ละจังหวัดนั้นไม่เท่ากัน 1-2 บาท แบ่งเป็นหลายช่วง ที่กำลังปรับขึ้นให้อยู่ จะทำทั้งหมด 12 ช่วง ซึ่งตัวเลขจะไม่เท่ากันทุกจังหวัด และเป็นไปไม่ได้ที่จะขึ้นพร้อมกันทุกจังหวัด เพราะจีดีพีแต่ละจังหวัดไม่เหมือนกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กระทรวงแรงงาน…!! เสนอเกิดวิกฤต ขอแบ่งเงินประกันสังคม ออกมาใช้ได้ 30,000
- พลังประชารัฐ ไปต่อ ดับฝัน แลนด์สไลด์ เพื่อไทย
นายสุชาติ ได้กล่าวอีกว่า ให้นโยบายกับปลัดกระทรวงแรงงานไปแล้วว่า จะต้องทำให้จบภายในเดือนสิงหาคมและน่าจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ช่วงต้นเดือนกันยายน จากเดิมที่วางเอาไวจะมีผลบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2566 แต่ครั้งนี้เวลา 1 ปี กว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้ปรับค่าแรงเลย เนื่องจากต้องแก้ปัญหาและเยียวยาประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลทำได้แต่ประคับประคองไม่ให้เลิกจ้าง แต่วันนี้เป็นเวลาที่เหมาะสม นายจ้างเห็นชอบเพราะต้องการให้ลูกจ้างอยู่กับเขาต่อ
“ส่วนตัวเลขค่าแรงขั้นต้ำที่เรากำหนดอยู่ 5-8 เปอร์เซ็นต์นั้น เรามีพื้นฐานการตั้งตัวเลขมาจากจีดีพีและภาวะเงินเฟ้อ โดยเอาจีดีพีของแต่ละจังหวัดมาบวกลบคูณหารจะสามารถตอบคำถามได้ว่า ทำไมแต่ละจังหวัดได้ในปริมาณเท่านี้” นายสุชาติ รมว.แรงงาน กล่าว
นายสุชาติ รมว.แรงงาน เผยว่า ขณะที่สถานการณ์ค่าครองชีพก็ล้อจากฐานเดิม ซึ่งในช่วงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต พื้นที่จังหวัดในอีอีซี และพื้นที่กทม. ต้องขึ้นก่อนและสูงขึ้นไป เพราะค่าครองชีพและจีดีพีจังหวัดดังกล่าวสูง ย้ำว่าเราจะเร่งรัดเพื่อนำเข้าครม.ในเดือนกันยายนให้ได้ ส่วนตัวอยากให้มีผลบังคับใช้วันที่ 1 ตุลาคม เพราะคิดว่าเป็นเวลาที่เหมาะสม ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนหารือกับสภานายจ้างว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะปรับให้ขึ้นเร็วกว่าต้นปี 2566 เพราะขณะนี้สินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวขึ้นไปแล้ว อย่างไรก็ดี อยากขอให้เชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
เมื่อถูกถามว่า การทำเรื่องขึ้นค่าแรงในช่วงนี้จะทำให้รัฐบาลถูกมองว่าเป็นการใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือไม่ นายสุชาติ กล่าว ให้มองว่าเป็นเรื่องช่วงเวลามากกว่า ถ้าเกิดคิดว่าการขึ้นค่าเเรงเป็นเรื่องการเมือง ก็คงขึ้นค่าแรง 492 บาทตามข้อเรียกร้องของผู้นำแรงงานไปแล้ว และตนขอร้องอย่าเอาเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องการเมือง เพราะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศชาติ เราไม่สามารถเอาเรื่องค่าแรงเป็นเรื่องการเมือง เราปรับตามเวลาที่เหมาะสม
