เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“ทนายตั้ม” พาผู้เสียหายพบ “รมว.ยุติธรรม” เพื่อเสนอเพิ่มโทษ “ผู้กระทำผิดทางเพศ” ด้าน “สมศักดิ์” เผยกระทรวงเตรียมติดกำไล EM คุมประพฤติสูงสุด 10 ปี

วันนี้ 1 กันยายน 2565 ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด (ทนายตั้ม) พร้อมกับผู้เสียหายในคดีถูกล่วงละเมิดทางเพศ ได้เดินทางไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม) เพื่อเสนอเพิ่มโทษ ผู้กระทำผิดทางเพศ และวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำอีก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

โดยนายสมศักดิ์ เผยว่า วันนี้ที่ทนายษิทราได้ตั้งคำถามว่าจะมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำผิดซ้ำอย่างไร? ให้ควบคุมผู้ที่เคยกระทำความผิดเรื่องของเพศ และเรื่องการใช้ความรุนแรง ซึ่งเข้ากับแนวทางกระทรวงยุติธรรมที่ได้เสนอกฎหมาย JSOC หรือกฎหมายป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ  ซึ่งหากคนที่ทำความผิดเรื่องอนาจาร ข่มขืน เรียกค่าไถ่ ใช้ความรุนแรง หากตัวเขาถูกคุมขังหรืออยู่ในคุก ก็สามารถขอให้อัยการทำเรื่องส่งศาลเพื่อขอให้คุมประพฤติต่อหลังจากพ้นโทษได้ และหากอยู่ระหว่างการพิจารณาหรือพิจารณาโทษออกมาแล้วก็สามารถทำเรื่องเพิ่มโทษได้เช่นกัน

อย่างกรณีที่เป็นข่าวอยู่ ก็สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอติดกำไล EM หลังพ้นโทษ ได้อีก 10 ปี ซึ่งจำนวนปีการคุมประพฤติขึ้นอยู่กับคณะกรรมการกระทรวงยุติธรรมว่าจะพิจารณาให้ติดกำไล EM กี่ปี แต่สูงสุดคือ10ปี

ทั้งคดีที่เกี่ยวกับเพศ คดีเกี่ยวกับกลุ่มเรื่องเพศ คดีกลุ่มเรื่องชีวิตและร่างกาย และคดีเกี่ยวกับการทำร้ายร่างกายสาหัส รวมถึงคดีเกี่ยวกับเสรีภาพ

โดยขณะนี้กฎหมายผ่าน 2 สภาแล้ว ขณะนี้กำลังขอพระราชทานโปรดเกล้า ให้ใช้กฎหมายนี้ก็จะสามารถมีผลบังคับใช้ได้ทันที ซึ่งรวมถึงคดีที่ศาลตัดสินไปแล้วก็สามารถขอให้เพิ่มโทษได้ เพราะเป็นการป้องกันคนที่เคยกระทำผิดเกี่ยวกับเพศ หากไม่มีคนคิดตามควบคุมดูแล ก็จะเผลอกระทำอีก โดยจะมีคณะกรรมการกระทรวงยุติธรรมคอยติดตามพฤติกรรมอยู่ตลอดเวลา

ส่วนกรณีเรื่องฉีดไข่ฝ่อจะต้องให้แพทย์ประเมิน แต่ยังไม่ได้เริ่มใช้ เพราะเป็นเรื่องสิทธิมนุษยชน ผู้ต้องขังต้องยินยอมด้วย แต่หากผู้ต้องขังอยากฉีด ทางเรือนจำก็จะดำเนินการให้

ส่วนจะมั่นใจได้อย่างไรว่า จะไม่กระทำผิดซ้ำนั้น นายสมศักดิ์ ระบุว่า จะมีคณะกรรมการประเมินพฤติกรรมตลอดเวลา หากยังพบพฤติกรรมคล้ายลักษณะเดิม ก็สามารถนำมาคุมขังต่อได้สูงสุด3ปี ซึ่งเชื่อว่า กฎหมายนี้จะทำให้ผู้เสียหาย ลดความกลัวได้หากผู้ต้องหาถูกพ้นโทษออกมา เพราะจะยังมีการควบคุมพฤติกรรมอยู่

ขณะที่ ทนายตั้ม ระบุว่า กฎหมายนี้หากพ้นโทษออกมาแล้ว จะมีการติดกำไล EM ดูพฤติกรรมอีก 10 ปีนั้น มองว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะป้องกันอาชญากรรมได้

ส่วนคดีของดาราสาววัย 21 ปี ขณะนี้ พนักงานสอบสวน ส่งไปฝากขังไม่อนุญาตให้ประกันตัวแล้ว ส่วนคดีรองหัวหน้าพรรคฯ ตอนนี้ขึ้นศาลหลายคดีแล้ว และบางคดีก็สืบพยานไปบ้างแล้ว ส่วนคดีของดาราสาวใจบัว ฮิดดิ้ง ตอนนี้เรื่องถึงชั้นศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว