เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รวบแล้ว…!! แท็กซี่ฉกนาฬิกาโรเล็กซ์ของนักธุรกิจ มูลค่ากว่า7แสนบาท

(10 ก.ย.2565) เมื่อเวลา 13.00 น. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. , พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ดวงโชติ สุวรรณจรัส ผกก.สน.ทองหล่อ ว่า ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ร่วมกันจับ นายธนกฤต อายุ 45 ปี พร้อมด้วยของกลาง นาฬิกา ยี่ห้อ Rolex รุ่น GMT OYSTER ราคา 700,000 บาท ห่อหุ้มด้วยกระดาษทิชชู่ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสีดำที่สะพายอยู่ โดยจับผู้ต้องหา บริเวณกลางซอยประชาราษฎร์สาย 1 ซอย36 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ

พฤติการณ์สืบเนื่องจากเมื่อวัน 5 ก.ย.2565 ผู้เสียหายเป็นนักธุรกิจชาย อายุ 25 ปี แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.ย.2565 ได้มาเที่ยวสถานบันเทิงภายในซอยสุขุมวิท 55 และเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านที่แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ เมื่อกลับถึงบ้าน พบว่านาฬิกา ยี่ห้อ Rolex รุ่น GMT OYSTER ที่สวมอยู่ที่ข้อมือหายไป

ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้เสียหายขึ้นรถแท็กซี่สีชมพูทะเบียน ทฬ 1xxx กรุงเทพมหานคร แต่จากการตรวจสอบพบว่า ปลายทางที่ผู้เสียหายลงเป็นรถแท็กซี่สีชมพูทะเบียน ทห 4xxx กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นคนละคันกับที่ผู้เสียหายขึ้นจากสถานบันเทิง
จากนั้นฝ่ายสืบสวนตรวจสอบผู้ขับแท็กซี่จึงทราบว่า ไม่ได้รับผู้เสียหายจากทองหล่อ แต่รับจากถนนจรัญสนิทวงศ์ จากการตรวจสอบจึงเชื่อว่ารถแท็กซี่ทะเบียน ทฬ 1xxx กรุงเทพมหานคร ผู้ขับขี่เป็นผู้ที่ลักนาฬิกาของผู้เสียหายไป และจากการสืบสวนทราบว่า ผู้ที่ขับขี่รถคือ นายธนกฤต
ต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ตรวจสอบพักอาศัยของนายธนกฤต ทราบว่าอยู่ที่หอพักภายในซอยประชาราษฎร์สาย1 ซอย 36 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ โดยจับระหว่างที่นายธนกฤตขับขี่รถจักรยานยนต์
ข่าวอื่นที่น่าสนใจ

จากการสอบถาม นายธนกฤต รับว่า มีอาชีพขับรถแท็กซี่จริง จากนั้นจึงขอตรวจค้นพบนาฬิกา ยี่ห้อ Rolex รุ่น GMT OYSTER ตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้งความว่าถูกคนร้ายลักไป จึงยึดเป็นของกลาง โดยยืนยันว่า ได้ลักของผู้เสียหายมาจริงโดยเห็นมีมูลค่าจึงต้องการเก็บไว้ ซึ่งนายธนกฤต รับอีกว่า ได้รับผู้เสียหายที่บริเวณหน้าร้าน แต่เนื่องจากผู้เสียหายเมาไม่ได้สติ จึงเห็นว่าผู้เสียหายสวมใส่นาฬิกา Rolex จึงได้ปลดนาฬิกาของผู้เสียหาย หลังจากนั้นจึงให้ผู้เสียหายลงจากรถแท็กซี่ไปขึ้นคันอื่นต่อแล้วตนเองก็หลบหนี
จากพยานหลักฐานฝ่ายสืบสวนเชื่อว่า นายธนกฤต เป็นคนร้ายที่ลักเอานาฬิกาของผู้เสียหายไปจริง อันเป็นเหตุที่ออกหมายจับได้ แต่ไม่สามารถออกหมายทันเนื่องจากผู้ต้องหาอาจหลบหนี หรือทำลายพยานหลักฐาน จากการตรวจสอบประวัติเพิ่มเติมพบว่า นายธนฤต เคยถูกจับในความผิดฐานลักทรัพย์ในเวลากลางคืนและพ้นโทษมาเมื่อปี 2564 ก่อนพ้นโทษออกมาขับรถแท็กซี่ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีตามกฎหมาย.