เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 3 เม.ย.62 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณีออกหมายเรียกนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้มารับทราบข้อกล่าวหาความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา116 ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบ และมาตรา189 ช่วยเหลือหรือให้ที่พำนักผู้ต้องหา ในวันที่ 6 เม.ย. เวลา 10.00 น. ว่า หมายเรียกดังกล่าวเป็นหมายเรียกเดิมที่มีการชุมนุมหน้า สน.ปทุมวัน เมื่อปี 2558 ในคดียุยงปลุกปั่น และช่วยเหลือผู้ต้องหา เหตุเกิดเวลา 22.00 น. วันที่ 24 มิ.ย. 2558 ซึ่งก่อนหน้านั้นมีการออกหมายเรียกนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธรมาให้ข้อมูลในคดีพาผู้ต้องหาหลบหนี

เนื่องจากรถตู้ที่ใช้พากลุ่มผู้ต้องหา มีชื่อมารดาของนายธนาธรเป็นเจ้าของ โดยออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลตั้งแต่ปี 2558 แล้ว ตอนนั้นนางสมพรยังส่งทนายมาให้ข้อมูล 1 ครั้ง หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้เรียกอีก ดังนั้นการออกหมายเรียกครั้งนี้นายธนาธรไม่น่าต้องตกใจ หรือแปลกใจเพราะทราบอยู่แล้วว่าตัวเองถูกกล่าวหาในเรื่องนี้ ซึ่งหลังจากนี้เมื่อออกหมายเรียกนายธนาธรแล้ว ก็จะต้องออกหมายเรียกมารดามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งด้วย แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน

เมื่อถามว่าเหตุใดจึงเพิ่งออกหมายเรียก ทั้งที่คดีนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คดีนี้มีการออกหมายเรียกดำเนินคดีผู้ต้องหาคนอื่นๆ ไปแล้ว เกิดขึ้นในสมัยที่ตนยังเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง จึงตั้งคณะทำงานในรูปคณะพนักงานสอบสวน ชุดแรก มีพล.ต.ต.ทวิชชาติ พละศักดิ์ รองผบช.น.ในตอนนั้นเป็นหัวหน้าคณะ และเปลี่ยนผบช.น.เปลี่ยนหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนมา 3 ชุด

ต่อมาปี 2561 พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก็ตั้งให้พล.ต.ต.ปรีชา เจริญสหายนนท์ รองผบช.น.ในตอนนั้น เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน แต่ต่อมาพล.ต.ต.ปรีชา โอนย้ายไปสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ทำให้คดีนี้หยุดชะงักไป ต้องเข้าใจว่าการทำคดีของตำรวจในรูปแบบคณะพนักงานสอบสวน หากหัวหน้าชุดไม่สั่งการ ก็ดำเนินการอะไรไม่ได้ ทำให้คดีนี้ค้างอยู่

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า ล่าสุดหลังมีคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจวาระที่ผ่านมาเมื่อเดือน มี.ค. เปลี่ยนตัว ผกก.สน.ปทุมวันเป็น พ.ต.อ.ธรรมมูญ บุญเรือง ที่เพิ่งย้ายมารับตำแหน่ง ก็ได้มาตรวจสอบสำนวนคดีในความรับผิดชอบ พบว่ายังมีคดีนี้ตกค้าง ศาลทหารสั่งให้ออกหมายเรียกนายธนาธรและคนที่เกี่ยวข้อง มารับทราบข้อกล่าวหาตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. 2558 เมื่อพิจารณาว่าเป็นเรื่องความมั่นคง จึงได้มาหารือกับผม ผมจึงสั่งการให้ทำตามกระบวนการตามกฎหมาย ป.วิอาญา ก็ให้ออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา สั่งไปก่อนวันที่ 29 มี.ค. และสั่งการพล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น.ไปตั้งหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีนี้ขึ้นใหม่แล้ว

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสามารถใช้ดำเนินคดีกับนายธนาธรได้ ยืนยันไม่เกี่ยวกับการเลือกตั้งและไม่ได้ดิสเครดิตใคร ไม่เกี่ยวการเมือง เป็นเรื่องการทำคดีที่ค้างอยู่ตามปกติ ยอมรับที่ล่าช้าเพราะเปลี่ยนหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ไม่มีเรื่องอะไรแอบแฝงเลย ผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งไปแล้วและคงไม่ตัดสินคดีก่อนวันที่ 9 พ.ค.นี้แน่นอน และยืนยันไม่ได้มีใบสั่งจากใคร ไม่ได้เป็นลูกกระเป๋งใคร ตำรวจทำงานตรงไปตรงมา ตามกบิลบ้านกบิลเมือง ฝากเตือน อย่าเอาหมายเรียกมาเป็นเครื่องมือในการใช้ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง หากใครทำตำรวจเสียหาย วิจารณ์โดยไม่รู้ข้อเท็จจริงไปกล่าวหาให้เสียหายก็ดำเนินคดีได้

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า คดีนี้ตำรวจมีพยานหลักฐาน อย่างหนึ่งคือการโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวของนายธนาธร ในวันที่ 24 มิ.ย. ระบุว่าตัวเองอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นการให้การปรปักษ์ รับว่าตัวเองอยู่ในที่เกิดเหตุ สน.ปทุมวัน รวมทั้งรถที่นำมาใช้ และหลักฐานอื่นๆ ตำรวจมั่นใจว่ามีหลักฐานแต่อยู่ในสำนวน ทั้งนี้หากการสอบสวนสืบสวนพบว่า การกระทำของนายธนาธรในวันนั้น เข้าข่ายความผิดอื่น เช่น ป.อาญา มาตรา 215 ผู้ใดมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ มาตรา 216 เมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้ที่มั่วสุมเพื่อกระทำความผิดตามมาตรา 215 ให้เลิกไป ผู้ใดไม่เลิกฯ ถ้าเข้าข่ายก็แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้อีก ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ในวันที่นายธนาธรจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาที่สน.ปทุมวัน ตำรวจไม่ได้เตรียมการอะไรเป็นพิเศษ หากประชาชนจะเดินทางมาให้กำลังใจก็สามารถทำได้ แต่ขออย่าทำผิดกฎหมาย เพราะตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายกับผู้ฝ่าฝืนทำผิด

สำหรับกรณีนายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค ที่ถูกพนักงานสอบสวนปอท.ออกหมายเรียก ฐานหมิ่นฐาน นั้น พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง คนละหน่วยงานรับผิดชอบ คดีของนายปิยะบุตร อยู่ในความรับผิดชอบของบช.ก. ส่วนของนายธนาธรเป็นเรื่องของนครบาล ย้ำว่าการดำเนินคดีตอนนั้นไม่ใช่การไล่เช็กบิลฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล อย่าเอามาโยงกัน คนละเรื่อง ตำรวจทำตามกฎหมาย ใครจะมองว่าตอกลิ่ม หรือสร้างความขัดแย้งอะไรก็แล้วแต่ ตนไม่ทราบ ทราบแต่ว่านี่คือการทำตามกฎหมายและทำคดีที่ค้างอยู่เท่านั้น สำหรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในตอนนี้ ห่วงมือที่ 3 ที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในการชุมนุมต่างๆ เท่านั้น

ภาพและข้อมูลจาก Khaosod

กลุ่มประชาชน ร้อง กกต.ยุบพรรคเพื่อไทย เหตุทักษิณ ครอบงำ สั่งการพรรค

อนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองหลังการเลือกตั้ง

หมอก้อง สรวิชญ์ โพสต์ถึง ปิยบุตร ไม่ใช่แค่ถอดออกจาก ส.ส.แต่ควรออกจากประเทศไปเลย

ยังต้องหารือ!! กกต. ยังไม่รู้จะคำนวณ ส.ส. สูตรไหน ต้องรอรวมคะแนนเขตเลือกตั้งใหม่

เนติวิทย์ ขอเป็นกำลังใจให้ คุณธนาธร และอ.ปิยบุตร และนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกท่าน

องค์กรโปร่งใส! บิ๊กตู่ มอบรางวัล ประกาศเกียรติคุณการตรวจสอบภายในฯ ให้กลาโหม

‘อุ๊’ เดือดอีก ด่าลาม ส.ศิวรักษ์ หลังป้องอนาคตใหม่ ‘ไอ้เฒ่าเจ้าเล่ห์ วีรกรรมมึงเยอะ!’

มติ กกต. สั่งเลือกตั้งใหม่ 6 หน่วย ใน 5 จังหวัด นับคะแนนใหม่ 2 หน่วย

ศรีวราห์ แจงออกหมายเรียก ธนาธร เป็นคดีค้างเก่า ไม่เกี่ยวการเมือง มั่นใจหลักฐานมัด

ชาวเน็ตเคลื่อนไหว!! นับหมื่นรายชื่อถอดถอน “บิ๊กแดง” พ้นผู้บัญชาการทหาร

ธนาธร นำทีม ขอบคุณพี่น้องประชาชน ยัน6เม.ย.ไปตามหมายเรียก ย้ำไม่ได้เป็นภัยต่อประเทศ

“อุ๊ หฤทัย” หอบหลักฐานแจ้งกองปราบ ตรวจสอบคลิป “ปิยบุตร”