ผู้เชี่ยวชาญเตือน! อาหารเช้า 3 ประเภทนี้ควรเลี่ยงเพราะเสี่ยงมะเร็ง จะหิวแค่ไหนก็ไม่ควรกิน!
ข่าวที่น่าสนใจ
ดร.โนริฮิโระ ซาโตะ ผู้เชี่ยวชาญด้านมะเร็งชื่อดังจากญี่ปุ่น เผยว่า การเลือกอาหารและเครื่องดื่มสำหรับมื้อเช้าอาจส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว บางชนิดได้รับความนิยมแต่กลับถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็ง
1. อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูง
หากต้องการลดความเสี่ยงมะเร็งผ่านการรับประทานอาหาร ควรใส่ใจในการเลือกอาหารหลัก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีแป้งเป็นส่วนประกอบหลัก ศาสตราจารย์โนริฮิโระ ซาโต้ จากคณะเทคโนโลยีการแพทย์ มหาวิทยาลัยเทเคียว ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า การบริโภคอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตขัดสีสูง เช่น ขนมปัง ข้าวขาว และบะหมี่ในปริมาณมาก อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว การที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นเวลานาน ไม่เพียงแค่กระตุ้นการหลั่งอินซูลินมากเกินไป ทำให้เกิดการอักเสบในเซลล์ แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งตับอ่อน มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านมอีกด้วย นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า การให้กลูโคส (น้ำตาล) แก่เซลล์มะเร็งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเจริญเติบโตและกระจายของเซลล์มะเร็ง และผู้ป่วยมะเร็งที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะมีอัตราการรอดชีวิตต่ำกว่าคนที่มีน้ำตาลปกติ ดังนั้นการควบคุมการบริโภคคาร์โบไฮเดรตขัดสีไม่เพียงแต่ช่วยควบคุมน้ำหนัก แต่ยังสามารถลดความเสี่ยงมะเร็งได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมกินอาหารประเภทขนมปัง ข้าวขาว และบะหมี่ในมื้อเช้า ควรใส่ใจในการควบคุมปริมาณอาหารให้เหมาะสม
2. อาหารแปรรูป
อาหารแปรรูปเป็นที่นิยมสำหรับอาหารเช้า เพราะทำได้รวดเร็วและสะดวกสบาย แต่ในกระบวนการผลิตมักมีการเติมสารเติมแต่งจำนวนมากเพื่อเพิ่มรสชาติและยืดอายุการเก็บรักษา องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้จัดให้มันเป็นสารก่อมะเร็งประเภทที่ 1 ซึ่งหมายความว่า “มีหลักฐานเพียงพอที่แสดงว่าอาจก่อมะเร็งในมนุษย์” เทียบเท่ากับบุหรี่และใยหิน ดร.โนริฮิโระ ซาโตะ เน้นย้ำว่า แม้การกินอาหารแปรรูปขั้นสูงจะไม่ได้หมายความว่าจะทำให้เกิดมะเร็งทันที แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคมากเกินไป หากคุณมีนิสัยกินอาหารประเภทนี้ในมื้อเช้าทุกวัน ควรลดความถี่และเลือกกินอาหารที่มีโปรตีนจากแหล่งธรรมชาติและสดใหม่เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
3. เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลผสมวิปครีม
น้ำสมูทตี้เนื้อเนียนหอมหวานที่โรยด้วยวิปครีมและขนมปังกรอบ หรือของตกแต่งสวยงามมักเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในมื้อเช้า แต่แท้จริงแล้ว เครื่องดื่มเหล่านี้ถือเป็น “กับดักมะเร็ง” ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสามารถทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็วและทำให้เกิดโรคอ้วน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งหลายชนิด การศึกษาที่เผยแพร่ใน BMJ พบว่า การดื่มน้ำตาลเพิ่มขึ้น 100 มล. ต่อวันจะเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งโดยรวมถึง 18% และความเสี่ยงมะเร็งเต้านมจะเพิ่มขึ้น 22% องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่า ควรควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกายให้อยู่ต่ำกว่า 5% ของแคลอรี่ทั้งหมดในแต่ละวัน (ประมาณ 25 กรัม หรือ 6 ช้อนชา) เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า นอกจากนี้ เครื่องดื่มที่มีวิปครีมยังเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ การศึกษากับผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่กว่า 2,000 คนพบว่า ผู้ที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำมีความเสี่ยงในการกลับเป็นมะเร็งน้อยลงถึง 40% ในขณะที่ผู้ที่บริโภคผลิตภัณฑ์จากนมธรรมดามีความเสี่ยงสูงขึ้นถึง 60% ดร.โนริฮิโระ ซาโต้เชื่อว่า ผลกระทบต่อสุขภาพจากผลิตภัณฑ์นมสามารถแตกต่างกันได้ตามปริมาณไขมันในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงการบริโภควิปครีมหรือผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันสูง หลายคนเชื่อว่าการดื่มน้ำผลไม้หรือสมูทตี้ในมื้อเช้าเป็นสิ่งดีต่อสุขภาพ แต่ในความเป็นจริง น้ำตาลฟรุกโตสในผลไม้หากบริโภคมากเกินไปอาจนำไปสู่โรคตับอ่อน โดยเฉพาะสมูทตี้ที่เติมน้ำตาลหรือโยเกิร์ตอาจทำลายเส้นใยในผลไม้ ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้การดูดซึมน้ำตาลเร็วขึ้น แต่ยังทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว กระทบต่อการเก็บสะสมไกลโคเจนในตับและสร้างภาระให้กับตับอีกด้วย